Friday, October 12, 2012

ลัทธิมาร์ก คือ สัจธรรม



คาร์ล ไฮน์ริช มาร์ก ( Karl Heinrich Marx ) เป็นนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์การเมือง นักประวัติศาสตร์ นักสังคมนิยม นักคอมมิวนิสต์ และนักปฏิวัติชาวเยอรมัน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแนวคิดที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาคอมมิวนิสต์สมัยใหม่


รักประชาชน เชื่อประชาชน
รับใช้ประชาชน
เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
ประชาชนฆ่าไม่ตายทำลายไม่สิ้น
ประชาชนจงเจริญ !


ลัทธิมาร์ก คือ สัจธรรม


     พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ผ่านกาลเวลามา 28 ปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันดีว่าเรามิได้ผ่านมาโดยสันติ หากผ่านมาในสภาพแวดล้อมอันยากลำบาก เราต้องรบกับศัตรูทั้งในและนอกประเทศ ทั้งในพรรคและนอกพรรค ขอบคุณ มาร์กซ, เองเกลส์, เลนิน, สตาลิน ท่านเหล่านี้ให้อาวุธแก่เรา อาวุธนี้มิใช่ปืนกล หากเป็นลัทธิมาร์กซ - เลนิน

       เลนินได้บรรยายความเป็นมาที่ชาวรัสเซียแสวงหาทฤษฎีปฏิวัติไว้ในหนังสือเรื่อง โรคไร้เดียงสา ' ของฝ่ายซ้าย ' ในการเคลื่อนไหว " ลัทธิคอมมิวนิสต์ " ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1920 ภายหลังที่ได้ผ่านความลำบากยากเข็ญมาหลายสิบปี ชาวรัสเซียจึงได้ค้นพบลัทธิมาร์กซ ประเทศจีนมีสภาพหลายอย่างเหมือนหรือคล้ายคลึงกับประเทศรัสเซียก่อนการปฏิวัติเดือนสิบ การกดขี่ของศักดินานิยม ข้อนี้เหมือนกัน ประเทศทั้งสองต่างล้าหลังด้วยกัน แต่ประเทศจีนกลับล้าหลังยิ่งกว่า บรรดาผู้นำหน้าทั้งหลายได้บากบั่นต่อสู้อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยยากในการแสวงหาสัจธรรมแห่งการปฏิวัติ เพื่อให้ประเทศชาติเฟื่องฟูขึ้น ข้อนี้เหมือนกันทั้งสองประเทศ

      นับตั้งแต่จีนปราชัยในสงครามฝิ่นเมื่อปี ค.ศ. 1940 เป็นต้นมา ผู้นำหน้าในหมู่ชาวจีนพากันแสวงหาสัจธรรมจากประเทศตะวันตกโดยผ่านความยากลำบากมากมายเหลือคณา หงซิ่วฉวน คังโหย่วเหวย เหยียนฟู่ และ ซุนยัดเซ็น เป็นตัวแทนของคนกลุ่มนี้ พวกเขาแสวงหาสัจธรรมจากโลกตะวันตกก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์จะได้กำเนิดขึ้น ในสมัยนั้น ขอให้เป็นหนังสือของตะวันตกที่มีหลักเหตุผลที่มีเหตุผลใหม่ๆ เท่านั้น ชาวจีนผู้แสวงหาความก้าวหน้าเป็นอ่านหมดทุกอย่าง นักเรียนนอกที่ถูกส่งไปเรียนที่ญี่ปุ่น, อังกฤษ, อเมริกัน, ฝรั่งเศส และ เยอรมันนีนั้น ก็มีมากมายอย่างหน้าอัศจรรย์ ภายในประเทศ ก็มีการยกเลิกระบอบสอบไล่ราชบัณฑิต และได้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมากมายประดุจดอกเห็ดในฤดูฝน โดยพยายามศึกษาจากตะวันตก ที่ข้าพเจ้าศึกษาในวัยหนุ่มนั้นก็เป็นสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมลัทธิประชาธิปไตยชนชั้นนายทุนตะวันตก หรือที่เรียกว่าศาสตร์ใหม่ ซึ่งประกอบด้วยทฤษฎีว่าด้วยสังคมและวิทยาศาสตร์ธรรมชาติสมัยนั้น ศาสตร์ใหม่นี้เป็นปฏิปักษ์กับวัฒนธรรมศักดินาหรือที่เรียกกันว่าศาสตร์เก่าของจีน

  ผู้ได้เล่าเรียนศาสตร์ใหม่นี้ ต่างเกิดความมั่นใจขึ้นในระยะเวลาอันนานทีเดียวว่า สิ่งเหล่านี้จะกอบกู้ประเทศจีนได้เป็นอย่างดี นอกจากพวกศาสตร์เก่าแล้ว พวกศาสตร์ใหม่เองก็น้อยนักที่จะสงสัยในข้อนี้ มีแต่การปฏิรูปบ้านเมืองให้ทันสมัยเท่านั้น จึงจะกอบกู้ประเทศชาติได้ และมีแต่การศึกษาจากต่างประเทศเท่านั้น จึงจะปฏิรูปบ้านเมืองให้ทันสมัยได้ และในบรรดาต่างประเทศสมัยนั้นก็มีแต่ประเทศทุนนิยมตะวันตกเท่านั้นที่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าสำเร็จ คนญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการศึกษาจากตะวันตก คนจีนก็คิดจะศึกษาจากคนญี่ปุ่นบ้าง ในสายตาของคนจีนสมัยนั้น รัสเซียเป็นประเทศที่ล้าหลัง น้อยคนนักที่คิดจะศึกษาจากรัสเซีย

  นี่คือสภาพที่คนจีนศึกษาจากต่างประเทศระหว่างทศวรรษที่ 4 แห่ง ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20


       การรุกรานของลัทธิจักรวรรดินิยมได้ทำลายความฝันอันงมงายของคนจีนในการศึกษาจากตะวันตก น่าประหลาดเหลือเกิน เหตุไฉนอาจารย์จึงรุกรานลูกศิษย์อยู่เรื่อยๆ ? คนจีนเรียนความรู้จากตะวันตกได้ไม่น้อยทีเดียวแต่ใช้การไม่ได้ อุดมคติจนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถปฏิบัติเป็นจริงขึ้นได้ บากบั่นต่อสู้กันมาก็หลายครั้ง รวมทั้งการปฏิวัติชินไฮ่ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวขนาดทั่วปะเทศ แต่ก็ประสบความล้มเหลวทุกครั้ง สภาพการณ์ของประเทศชาติเลวร้ายทุกๆ วัน สภาพแวดล้อมบีบบังคับจนผู้คนไม่สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ ความสงสัยได้บังเกิดขึ้น ได้ทวีขึ้น และขยายตัวออกไป

        สงรามโลกครั้งที่ 1 ยังผลให้สั่นสะเทือนไปทั่วโลก ชาวรัสเซียก่อการปฏิวัติเดือนสิบ สถาปนารัฐลัทธิสังคมนิยมขึ้นเป็นประเทศแรกในโลก ภายใต้การนำของเลนินและสตาลิน สติกำลังในการปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซียซึ่งแฝงอยู่ใต้ดินโดยที่ชาวต่างประเทศไม่อาจมองเห็นได้ในอดีตนั้น ได้ระเบิดขึ้นในบัดดลดุจภูเขาไฟ คนจีนและมวลมนุษย์ทั่วโลกต่างมองดูคนรัสเซียด้วยสายตาที่ผิดแปลกไปจากเดิม

         ขณะนั้น และก็แต่ในขณะนั้นเท่านั้น ที่ชาวจีนได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ใหม่เอี่ยมทั้งในความคิดและในทางชีวิต เมื่อชาวจีนได้ค้นพบลัทธิมาร์กซ - เลนิน ซึ่งเป็นสัจธรรมทั่วไปที่สามารถนำไปใช้ได้ทุกแห่งหนนี้แล้ว โฉมหน้าของประเทศจีนก็เปลี่ยนแปลงไป

     ชาวจีนได้ค้นพบลัทธิมาร์กซโดยการแนะนำของชาวรัสเซีย ก่อนการปฏิวัติเดือนสิบ ชาวจีนไม่เพียงแต่ไม่รู้จักเลนินและสตาลิน แม้มาร์กซและเองเกลก็หารู้จักไม่ เสียงปืนของการปฏิวัติเดือนสิบส่งให้ลัทธิมาร์กซ - เลนินมาให้เรา การปฏิบัติเดือนสิบช่วยผู้นำหน้าทั่วโลกตลอดจนผู้นำหน้าของประเทศจีน ให้ใช้โลกทัศน์ของชนชั้นกรรมาชีพเป็นเครื่องมือในการพิเคราะห์ชะตากรรมของประเทศชาติและไตร่ตรองปัญหาของตนเองเสียใหม่ เดินตามหนทางของชาวรัสเซีย - นี่คือข้อสรุป

       ปี ค.ศ. 1919 เกิดการเคลื่อนไหว 4 พฤษภาคมขึ้นในประเทศจีน ปี ค.ศ. 1921 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ก่อตั้งขึ้น ในยามที่ตกอยู่ในความหมดหวัง ซุนยัดเซนได้พบกับการปฏิวัติเดือนสิบและพรรคอมมิวนิส์จีน ซุนยัดเซนต้อนรับการปฏิวัติเดือนสิบ ต้อนรับการช่วยเหลือของชาวรัสเซียที่มีต่อชาวจีน และต้อนรับการร่วมมือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ต่อมาซุนยัดเซนถึงแก่กรรม เจียงไคเช็คขึ้นเถลิงอำนาจ ภายในระยะเวลานานถึง 22 ปีนี้ เจียงไคเช็คฉุดลากประเทศจีนไปสู่ห้วงวิบัติ ในระยะนี้ สงครามโลกคร้งที่ 2 ที่ต่อต้านฟาสซิสต์โดยมีสหภาพโซเวียตเป็นกำลังหลักนั้น ได้โค่นมหาประเทศลัทธิจักรวรรดินิยมลง 3 ประเทศ มหาประเทศลัทธิจักรวรรดินิยมอีก 2 ประเทศก็ถูกบั่นทอนลงให้อ่อนแอในระหว่างสงคราม ในโลกนี้คงเหลือมหาประเทศลัทธิจักรวรรดินิยมอยู่แต่เพียงประเทศเดียว คือ ประเทศอเมริกาเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย แต่วิกฤติภายในประเทศอเมริกานั้นหนักหน่วงยิ่งนัก อเมริกาต้องการจะเอาคนทั้งโลกลงเป็นทาส มันส่งอาวุธให้เจียงไคเช็คเข่นฆ่าชาวจีนนับล้านๆ คน ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อได้ขับไล่ลัทธิจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นออกไปแล้ว ประชาชนจีนได้ดำเนินสงครามปลดปล่อยเป็นเวลา 3 ปี จึงได้รับชัยชนะโดยพื้นฐาน

     ในสายตาของประชาชนจีน อารยธรรมของชนชั้นนายทุนตะวันตกเอย ลัทธิประชาธิปไตยของชนชั้นนายทุนเอย แผนสาธารณรัฐของชนชั้นนายทุนเอย เป็นอันล้มละลายไปหมดสิ้นด้วยประการฉะนี้ ลัทธิประชาธิปไตยของชนชั้นนายทุนถูกแทนที่โดยลัทธิประชาธิปไตยของประชาชนซึ่งนำโดยชนชั้นกรรมกร และสาธารณรัฐชนชั้นนายทุนถูกแทนที่โดยสาธารณรัฐประชาชน ดังนี้ จึงเกิดความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง คือผ่านจากสาธารณรัฐประชาชนไปบรรลุลัทธิสังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ ไปสู่การสูญสิ้นของชนชั้นและไปสู่มหาสมภาพแห่งสากล คังโหย่วเหวยเคยเขียนหนังสือไว้เรื่องหนึ่งชื่อ หนังสือว่าด้วยมหาสมภาพ แต่เขามิได้ค้นพบและก็ไม่สามารถค้นพบหนทางที่จะนำไปสู่มหาสมภาพได้ สาธารณรัฐของชนชั้นนายทุนเคยมีอยู่ต่างประเทศ แต่จะมีในประเทศจีนไม่ได้ เพราะจีนเป็นประเทศที่ถูกลัทธิจักรวรรดินิยมกดขี่ มีอยู่หนทางเดียวเท่านั้นคือ ผ่านสาธารณรัฐประชาชนที่นำโดยชนชั้นกรรมกร

     สิ่งอื่นๆ ทั้งปวงได้ทดลองมาหมดแล้ว และก็ล้มเหลวไปหมดแล้ว บรรดาผู้คนที่เคยอาลัยอาวรณ์ในสิ่งอื่นๆ นั้น บ้างได้ล้มลงแล้ว บ้างก็ได้ตื่นตัวขึ้นแล้ว และบ้างกำลังเปลี่ยนสมองอยู่ เหตุการณ์ได้คลี่คลายขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จนทำให้คนจำนวนมากรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน และรู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องตั้งต้นศึกษากันใหม่ จิตใจของคนทั้งหลายนี้เป็นที่เข้าใจได้ และเราก็ต้อนรับท่าทีอันดีงามที่ใคร่จะตั้งต้นศึกษาใหม่นี้

      เมื่อได้ลัทธิมาร์กซ - เลนิน ภายหลังการปฏิบัติเดือนสิบแล้ว กองหน้าของชนชั้นกรรมาชีพจีนก็ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนขึ้น จากนั้นมาก็เข้าสู่การต่อสู้ทางการเมือง ผ่านไปบนหนทางอันคดเคี้ยวเป็นเวลา 28 ปี จึงได้ชัยชนะโดยพื้นฐาน จากความเจนจัดที่ได้สะสมมาเป็นเวลา 28 ปี เราก็ได้ข้อสรุปอย่างเดียวกันกับ " ความจัดเจนที่ได้สะสมมาเป็นเวลา 40 ปี " ของซุนยัดเซ็น ซึ่งท่านได้เขียนไว้ในคำสั่งเสียก่อนมรณกรรม ข้อสรุปนี้คือ เราตระหนักดีว่า การที่จะบรรลุชัยชนะได้นั้น " เราจะต้องปลุกมวลชนให้ตื่นขึ้น ร่วมกับประชาชาติต่างๆ ในโลกที่ปฏิบัติต่อเราด้วยความเสมอภาค บากบั่นต่อสู้ร่วมกัน " ซุนยัดเซนมีโลกทัศน์ต่างกับเรา ท่านพิเคราะห์ปัญหาและจัดการกับปัญหาโดยเริ่มต้นจากจุดยืนทางชนชั้นที่ต่างกัน แต่อย่างไรก็ดี ในทศวรรษที่ 2 แห่งศตวรรษที่ 20 ท่านก็ได้บรรลุข้อสรุปที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเราโดยพื้นฐานในปัญหาที่ว่า จะต่อสู้กับลัทธิจักรวรรดินิยมอย่างไร



- คัดจาก ว่าด้วยเผด็จการประชาธิปไตยของประชาชน


      ปี ค.ศ. 1924 ซุนยัดเซ็นรับข้อเสนอของพรรคคอมิวนิสต์จีน โดยได้เรียกประชุมผู้แทนทั่วประเทศของพรรคก๊กมิ่นตั๋งครั้งที่ 1 ซึ่งมีพรรคคอมมิวนิสต์เข้าร่วมด้วย ได้กำหนดนโยบายใหญ่ 3 ประการอันได้แก่การร่วมมือกับรัสเซีย ร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์และช่วยเหลือกรรมกรชาวนา ได้ก่อตั้งโรงเรียนการทหารหวงผู่ ทำให้แนวร่วมประชาชาติซึ่งประกอบด้วยพรรคก๊กมิ่นตั๋ง, พรรคคอมมิวนิสต์และประชาชนวงการต่างๆ ปรากฏเป็นจริงขึ้น ดังนั้น ผลก็คือในปี ค.ศ. 1924 - 1925 ได้มีการกวาดล้างอิทธิพลปฏิกิริยาในกวางตุ้ง ในปี ค.ศ. 1926 - 1927 ได้ดำเนินสงครามปราบขุนศึกภาคเหนืออย่างมีชัย ยึดดินแดนส่วนใหญ่แถบลุ่มแม่น้ำฉางเจียงและแม่น้ำหวงเหอไว้ได้ ตีรัฐบาลขุนศึกภาคเหนือพ่ายแพ้ไป และก่อการต่อสู้ปลดแอกประชาชนอันไพศาลซึ่งไม่เคยปรากฏมาในประวัติศาสตร์ประเทศจีนขึ้น

        แต่ครั้นระหว่างปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อนปี ค.ศ. 1927 ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานที่สงครามปราบขุนศึกภาคเหนือกำลังคืบหน้าอยู่นั้นเอง แนวร่วมประชาชาติซึ่งประกอบด้วยพรรคก๊กมินตั๋ง, พรรคคอมมิวนิสต์และประชาชนวงการต่างๆ อันเป็นตัวแทนภารกิจปลดปล่อยของประชาชนจีนและนโยบายปฏิวัติทั้งปวงของแนวร่วมนี้ ก็ถูกทำลายไปโดยนโยบาย " สะสางพรรค " และนโยบายเข่นฆ่าอันเป็นการทรยศและคัดค้านประชาชนของทางการพรรคก๊กมิ่นตั๋ง พรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีนผู้เป็นพันธมิตรเมื่อวาน ถูกถือเป็นศัตรู พวกลัทธิจักวรรดินิยมและพวกศักดินานิยมผู้เป็นศัตรูเมื่อวาน กลับถูกถือเป็นพันธมิตร ทางการพรรคก๊กมิ่นตั๋งได้จู่โจมอย่างฉับพลันต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนและปะชาชนจีนอย่างตระบัดสัตว์เช่นนี้ การปฏิวัติใหญ่ของจีนที่กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาจึงเป็นอันถูกทำลายไป หลังจากนั้น สงครามกลางเมืองได้เข้ามาแทนที่ความสามัคคี เผด็จการได้เข้ามาแทนที่ประชาธิปไตย ประเทศจีนที่มืดมนได้เข้ามาแทนที่ประเทศจีนที่รุ่งโรจน์

    แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็มิได้ถูกข่มขวัญลง มิได้ถูกพิชิตและมิได้ถูกเข่นฆ่าจนหมดสิ้น พวกเขาพยุงตัวขึ้นจากพื้นดิน เช็ดรอยเลือดตามตัวจนเกลี้ยง ฝังศพของสหายร่วมรบเป็นที่เรียบร้อย ครั้นแล้วก็สู้รบต่อไปอีก พวกเขาชูธงผืนใหญ่แห่งการปฏิวัติขึ้นอย่างสูงเด่น ทำการต่อต้านด้วยกำลังอาวุธและในเขตแคว้นอันกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศจีน พวกเขาได้จัดตั้งรัฐบาลของประชาชนขึ้น ดำเนินการปฏิวัติระบอบที่ดิน และสร้างกองทัพแดงแห่งประเทศจีนซึ่งเป็นกองทัพของประชาชนขึ้น รักษาและขยายกำลังปฏิวัติของประชาชนออกไป



- คัดจาก ว่าด้วยรัฐบาลรวม
        






By เหม๋าเจ๋อตง  ( นิพนธ์พจน์ลัทธิมาร์กซ )
            

No comments:

Post a Comment