Friday, October 12, 2012

รามเกียรติ์ รื้อเรียน เพื่อ รื้อรู้ (ตอนที่ 2 )




รามเกียรติ์ รื้อเรียน เพื่อ รื้อรู้ ( ตอนที่ 2 )

         ใครที่อ่านรามเกียรติ์แล้ว อาจมีแนวความคิดว่าเรื่องนี้น่าจะตอกย้ำสำแดงถึงการแบ่งชนชั้นวรรณเต็มตัว โดยฝ่ายชั่วร้ายคือยักษ์ทั้งหลายแหล่ที่แท้ก็คือวรรณะจันฑาลและศูทร พวกที่มีฤทธรุทธคือ พราห์ม - กษัตริย์ - แพศย์ แวดล้อมกันไป หรือไม่ก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่บูชาพระผู้เป็นเจ้าได้งดงามราวมหาโศลกทั้งโลกมารวมกันจดสรรเสริญเยินยอคือการอวตารมาปราบมารร้ายของพระนารายณ์ อีกจุดหนึ่งได้แก่การยกย่องความซื่อสัตย์ของนางสีดาอันมีต่อสามี

          หากรามเกียรติ์เป็นการแข่งขันกีฬาหรือว่าเรื่องยาวเข้าประกวด ถ้าผู้เขียนเป็นผู้ตรวจหรือเป็นกรรมการตัดสิน ขอยินดีที่จะจับเรื่องนี้แพ้ฟาล์วตั้งแต่เข้าสนาม เพราะรามเกียรติ์เพียรเอาเปรียบคู่ต่อสู้ตั้งแต่แรกเริม


          เดิมทีนนทกผู้ตกเป็นจำเลยสังมเทวดาเป็นยักษ์มีหน้าที่ล้างเท้าทวยเทพที่ขึ้นเฝ้าพระอิศวร ถูกมวลเทวดาลูบหน้าตบหัวและมั่วถึงขนาดดึงทึ้งผมเล่นมาช้านาน จนกระทั่งหนังกบาลล้านเกลี้ยง ถูกแล้งเยี่ยงนี้มีหรือมิคั่งแค้น นนทกเลยวิ่งแจ้นเข้าเฝ้าพระอิศวรพิโอดพิครวญขอให้มีนิ้วเพชร ชี้ใครเป็นเสร็จสรรพดับดิ้นทันที แค้นนี้จึงชำระ นนทกชี้ดะใส่เทวดาตายคาเขาไกรลาสแถมเที่ยวอาละวดไปทั่วสวรรค์ พระอิศวรจึงบัญชาให้พระนารายณ์เป็นผู้ปราบ แล้วดังที่ทราบกัน นนทกนั้นโดนมายาพระนารายณ์เข้าเต็มอก นนทกจึงว่า


เหตุใดไม่ทำซึ่งหน้า
มารยาเป็นหญิงแสนบัดสี
ฤๅว่ากลัวนิ้วเพชรนี้
จะชี้พระองค์ให้บรรลัย

ตัวข้ามีมือแต่สองมือ
ฤๅจะสู้ทั้งสี่กรได้
แม้นสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย
ที่ไหนจะทำได้ดังนี้

          ถูกจี้ใจดำพระนารายณ์ก็ทำเป็นใจกว้าง พูดเปรี้ยงปร้างออกมาว่า


ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์
จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร
เหาะเหินเดินได้ในอัมพร

มีมือยี่สิบซ้ายขวา
ถือคฑาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร
ตามไปราญรอนชีวี

ให้สิ้นวงศพงศ์มึงอันศักดา
ประจักษ์แก่เทวาทุกราศี...
          
           เล่นสาบอย่างนี้อย่าว่ายี่สิบมือเลย ถึงจะงอกเงยเป็นล้านมือก็สิ้นชื่ออยู่ดี เพราะพระนารายณ์มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นเทพทรงอิทธิฤทธิ์น้องๆ พระอิศวร

           ขบวนการปราบมารจึงก่อตัวทันทีที่หัวนนทกกระเด็น ( ไปเกิดป็นทศกัณฐ์ ) พระอิศวร ( ตัวแสบ ) ก็แลบบัญชาการว่า


เจ้าไปเถิดเกิดเป็นกษัตร
สุริยวงศ์จักรพรรดิมหาศาล
ทรงนามพระรามอวตาร...

และ


อันพระลักษมีบังอร
ไปเกิดในนครลงกา
ชื่อว่าสีดานงลักษณ์
เป็นบุตรทศพักตร์ยักษา...

          ซึ่งก่อนหน้านั้นก็บัญชาการให้ใครและอะไรต่อมิอะไรลงไปเกิดเป็นทหารรับใช้พระรามล่วงหน้าเป็นทิวแถว แล้วยังให้เวสสุญาณทพบุตรจุติมาเกิดเป็นพิเภก โหรเอกน้องทศกัณฐ์โดยมีบัญชาว่าให้ทรยศพี่มาอยู่กับพระราม คอยคำนวนฤกษ์ยามบอกความลับทั้งหมดของทศกัณฐ์ พูดกันอย่างหน้าด้านคือพิเภกเป็นตัวการสายลับล้วงตับทำลายโคตร

          วางแผนโหดเหี้ยมตระเตรียมเป็นฉากๆ ผูกลากให้ทศกัณฐ์เป็นตัวมหันตภัย ผลักไสพวกยักษ์แพ้แต่ในมุ้ง มุ่งร้ายโจ่งแจ้ง แกล้งให้สีดามาเกิดเป็นลูกแล้วถูกจะเอาเป็นเมีย ยังเสือกเงียบเสียซะงั้น นี่หรือสวรรค์นี่หรือการสรรเสริญเกียรติยศพระนารายณ์ เป็นความน่าละอายเสียมากว่า เพราะจะหาความชอบธรรมไปทำไม เมื่อบังคับให้เขาเลวทรามแล้วปราบปรามอย่างสนุกมือ

           นี่คือจุดควรรื้ออย่างยิ่ง

           ตัวละครหญิงสำคัญที่นามว่าสีดาถูกตำราวรรณคดีไทยเทิดทูนใให้เพรียบพร้อมไปทุกอย่าง ไม่ว่าท่าทางกิริยาหรือว่าความสะสวย และด้วยรากฐานด้านความซื่อสัตย์ ทุกทัศนคติจึงลงมติให้สีดาเป็นยอดกัลยาณีของนางในวรรณคดีทีเดียว

           แต่หาได้เฉลียวใจไม่ว่าหลายคราที่นางสีดาไม่น่าจะโง่อย่างมหาศาลปานนั้น ( หรือบรรดากวีเราเองที่ละเลงเรื่องคลุกเคล้าไม่เท่ากันเหมือนที่ทำกับนางวันทองด้วยผองกวีมือเสภา ฯ

           กำเนิดนางสีดาที่ว่ามาจากนางลักษมีมเหสีพระนารายณ์ ซึ่งรามเกียรติ์เราใช้สีดาตัวนี้เป็นมูลเหตุดำเนินเรื่อง กระทั่งเกิดเรื่องล้างผลาญ ( ในนิทานชาดกของพุทธก็อุตส่าห์มีเรื่องรามโพธิสัตว์ดัดแปลงแข่งกับฝ่ายพราห์ม โดยให้รพะรามคือชาติปางก่อนของพระพุทธเจ้า ดึงเอายโสธรามาเป็นสีดา หนุมานคือพระอานนท์ เป็นต้น )

           ตัวจักรกลอีกตัวหนึ่งือพิเภกซึ่งสวรรค์เสกคำทำนายว่าสีดาจะทำลายวงศ์ยักษ์ แต่ไม่ยักกะบอกว่าเป็นธิดาทศกัณฐ์กับนางมณโฑ ( เมื่อตอนเติบโตและถูกลักพามา ) พูดแต่เพียงว่าให้คืนนางสีดาไป ครั้นตัวเองถูกขับไล่ดันทะเล้นเห็นในที่พึ่งพิงคือพระราม เลยข้ามน้ำข้ามทะเลซัดเซมาซบใต้ใบบุญซะดื้อๆ และตัวทำลายวงศ์ยักษ์แท้ คือภิเพกนั่นเอง

            ย้อนมาเพ่งภาพนางสีดาอีกครั้ง หลังจากได้อยู่เป็นคู่ครองพระรามและติดตามออกมาเดินดงด้วยความจงรักภักดี ด้วยความมีความเพียบพร้อม ครั้นเห็นม้ารีศแปลงเป็นกวางทองตัวย่อมงดงาม นางสีดาก็มีความไม่งามเกิดขึ้นทันที เป็นเพราะกวีหรือพราห์มผู้แต่งแกล้งลืมหรือไรไม่รู้ ดูอากัปของสีดา


พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช
จงโปรดเกศข้าบาทบทศรี
ช่วยจับสุวรรณมฤคี
มาเลี้ยงไว้ที่ศาลา

น้องรักจักได้เชยชม
ให้เป็นบรมสุขา
แม้นตายจงเอาหนังมา
ตัวข้าจะลาดเป็นอาสน์นอน

            อ้อนวอนจะเอากวางให้ได้จับตายจับเป็นได้ทั้งนั้น นี่หรือนางแห่งวรรณคดี พอสามีบอกว่าเป็นกวางแปลงมานางสีดาทำท่าจะตายอยู่เช่นนั้นไม่หยุดสุดที่จะหักห้าม พระราม ( จอมโง่อีกคน ) ก็รีบลนลานไปล่ากวางทองทันควัน โดนพระลักษณ์กั้นขวางว่าเป็นกวางปลอมแน่ สีดายังงอแงว่าพระลักษณ์แกล้งทัดทานจึงพาลเป็นลมเอาดื้อๆ ผลคือพระรามยิงม้ารีศตายแต่ก่อนตายม้ารีศแกล้งร้องเป็นเสียงของพระรามจะให้พระลักษณ์ไปตาม ( ด้วยความอวดดื้อถือดี ) เมื่อพระลักษณ์มีเหตุผลชี้แจงว่ายักษ์แกล้งหลอกร้อง ดูนางสีดาเธอสำนองเถิดว่า


ทั้งนี้เพื่อจิตเจ้าคิดคด
ทรยศต่อองค์พระเชษฐา
เพราะอยู่แต่สองในศาลา
แสร้งบิดเบือนว่าทุกสิ่งไป

ถึงมาตรว่าตัวเราจะเป็นหม้าย
ที่หมายพึ่งเจ้านั้นหาไม่
สู้เสียชีวิตชีวาลัย
ตายไปตามองค์พระสี่กร

            น่าอ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับหญิงพรรค์นี้ ตีโพยตีพายจนได้เรื่องแล้วยังมายักเยื้องคิดเลยเถิดเตลิดถึงเรื่องชู้สาว

            ราวกับมิใช่นางในวรรณคดีตัวจริง !





By คมทวน  คันธนู

No comments:

Post a Comment