การก่อตั้งพรรคบอลเชวิค
การต่อสู้ที่คัดค้านพวกเมนเชวิค
และพวกลัทธิแก้แห่งสากลที่สอง
ในขณะที่การก่อตั้งพรรคในรัสเซียมีแนวโน้มที่จักต้องดำเนินการอย่างแน่นอนแล้วนั้น พวกลัทธิแก้ก็ได้เปลี่ยนแปลงกลวิธีเสียใหม่ พวกเขาไม่อาจที่จะคัดค้านการก่อตั้งพรรคต่อไปอีกแล้ว จึงพยายามจะให้ถือเอาพรรคของลัทธิแก้สากลที่สองมาเป็นเบ้าในการหล่อพรรครัสเซีย ดังนั้นปัญหาที่ว่าจะก่อตั้งพรรคแบบไหนจึงกลายเป็นจุดรวมศูนย์ของการต่อสู้ในวาระต่อมา ในเดือนกรกฎาคมปี 1903 สมัชชาทั่วประเทศครั้งที่สองของพรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยรัสเซียก็ได้เปิดขึ้นอย่างมีชัยเลนินหวังว่าที่ประชุมครั้งนี้จะสามารถกำหนดหลักนโยบายและระเบียบการของพรรคนี้เป็นลัทธิมาร์กซ จากนี้จะได้ทำให้พรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยของรัสเซียกลายเป็นพรรคปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพแบบใหม่ที่แตกต่างกับพรรคลัทธิแก้แห่งสากลที่สอง แต่ทว่าในที่ประชุมได้เกิดการต่อสู้อย่างแหลมคมขึ้น ในขณะอภิปรายร่างหลักนโยบายของพรรคนั้น พวกลัทธิฉวยโอกาสคัดค้านการบรรจุข้อความที่ให้สร้างเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพเข้าไว้ในร่างนโยบายนี้ โดยอ้างว่าหลักนโยบายของพรรคสังคมประชาธิปไตยประเทศอื่นๆ ล้วนแต่ไม่ได้พูดถึงเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพกันเลย พรรครัสเซียก็ไม่ควรบรรจุเข้าไปด้วย โดยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้พรรครัสเซียก็กลายเป็นพรรคลัทธิปฏิรูปไปเสีย เลนินได้ดำเนินการต่อสู้กับพวกลัทธิฉวยโอกาสเหล่านี้อย่างเด็ดเดี่ยว บดขยี้แผนกโลบายของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง จนในที่สุดในหลักนโยบายที่ผ่านโดยที่ประชุมได้กำหนดไว้อย่างแจ่มชัดว่า การช่วงชิงให้บรรลุซึ่งเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพนั้น เป็นภาระหน้าที่พื้นฐานของพรรค นับว่าเป็นพรรคเดียวในบรรดาพรรคของนานาประเทศในสากลที่สอง ได้บรรจุข้อความให้บรรลุเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพไว้ในหลักนโยบายของพรรค และนี้ก็เป็นสัญลักษณ์เด่นชัดประการหนึ่งของพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพแบบใหม่ ที่เลนินตั้งขึ้น แตกต่างกับพรรคลัทธิแก้แห่งสากลที่สอง ต่อมาเลนินได้เคยชี้ว่า การเสนอปัญหาเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพขึ้นอย่างแจ่มชัด ในหลักนโยบายของพรรคที่ผ่านโดยที่ประชุมสมัชชาทั่วประเทศครั้งที่สองของพรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยรัสเซียนั้น ก็เพื่อที่จะคัดค้านลัทธิเบิร์นสไตน์ คัดค้านลัทธิฉวยโอกาสนั่นเอง
ในขณะที่อภิปรายระเบียบการของพรรคนั้น พวกลัทธิฉวยโอกาสซึ่งมีมาร์ตอฟเป็นหัวโจก ก็ดำเนินการทำลาย ในปัญหาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการเป็นสมาชิกนั้นเลนินเสนอว่าผู้ที่รับรองหลักนโยบายของพรรค ให้การสนับสนุนแก่พรรคในทางวัตถุ และเข้าร่วมองค์กรการจัดตั้งแห่งหนึ่งของพรรค ล้วนแต่สามารถเข้าเป็นสมาชิกของพรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย สมาชิกพรรคจักต้องเคารพและปฏิบัติตามวินัยของพรรค จักต้องเข้าร่วมในองค์การจัดตั้งของพรรค ทำให้บุคคลที่ขาดความแน่วแน่ซึ่งมิใช่ชนชั้นกรรมาชีพยากที่จะเล็ดลอดเข้ามาภายในพรรคได้ อันเป็นการประกันความบริสุทธิ์ขององค์กรจัดตั้งของพรรคก็ได้ กระทั่งว่าใครก็ตาม ล้วนแต่ " ลงชื่อ " เข้าพรรคเอาเองได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อวินัยของพรรคก็ยังได้พวกเขาเอาเองได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อวินัยของพรรคก็ยังได้ พวกเขายังคัดค้านการนำรวมศูนย์ที่เป็นเอกภาพของศูนย์กลางโฆษณาเผยแพร่ " ระบอบปกครองตนเอง " โดยเห็นว่าองค์การจัดตั้งส่วนท้องถิ่น ไม่ต้องขึ้นต่อมติของส่วนกลางก็ได้ เป็นที่แน่ชัดว่า มาร์ตอฟต้องการจะเลียนแบบแนวทางจัดตั้งที่เป็นลัทธิฉวยโอกาสของบรรดาพรรคในนานาประเทศแห่งสากลที่สอง ทำให้องค์การจัดตั้งของพรรคกลายเป็นสโมสรชนชั้นนายทุนที่มีส่วนส่วนประกอบสับสนที่มีรูปแบบไม่แน่นอน ยกเลิกลักษณะปฏิวัติและลักษณะนำหน้าของพรรคนั่นเอง เนื่องจากพวกลัทธิฉวยโอกาสมีคะแนนเสียงเป็นฝ่ายได้เปรียบในปัญหานี้ข้อเสนอของเลนินจึงไม่ได้รับการรับรองจากที่ประชุม แต่เนินหาได้ละทิ้งหลักการแต่อย่างไรไม่ หากยังคงดำเนินการต้อสู้กับพวกลัทธิฉวยโอกาสอย่างไม่ย่นย่อท้อถอยต่อไปในขณะที่ที่ประชุมเลือกตั้งองค์การส่วนกลางนั้น ฝ่ายที่สนับสนุนเลนินเป็นฝ่ายข้างมากจึงได้ชื่อว่าบอลเชวิค ( หมายถึงฝ่ายข้างมาก ) แต่นั้นมา ส่วนพวกลัทธิฉวยโอกาสซึ่งมีมาร์ตอฟเป็นแทนฝ่ายข้างน้อย จึงได้ชื่อว่าแมนเชวิค ( หมายถึงฝ่ายข้างน้อย ) แต่นั้นมา พวกแมนเชวิคนั้นอันที่จริงก็คือทายาทของกลุ่มเศรษฐกิจนั่นเอง
ภายหลังการประชุมสัมนาครั้งที่สอง การต่อสู้ภายในพรรคก็ยิ่งดุเดือดขึ้น พวกเมนเชวิคซึ่งมีมาร์ตอฟเป็นหัวโจกได้ทวีการโฆษณาป่าวร้องแนวทางการจัดตั้งของลัทธิฉวยโอกาสหนักมือยิ่งขึ้น ทำการเคลื่อนไหวค้านพรรคอย่างบ้าคลั่ง โจมตีเลนินอย่างชั่วช้า ว่าทำในสิ่งที่เป็น " ลัทธิรูปแบบ " " ลัทธิขุนนาง " กล่าวหาเลนินว่าจะสร้าง " ระบอบทาสกสิกร " ขึ้นภายในพรรค เคาสกี้หัวโจกลัทธิฉวยโอกาสที่สองได้เขียนบทความตีพิมพ์ ในหนังสือพิมพ์ของพวกเมนเชวิค ประกาศอย่างเปิดเผยว่า เขาสนับสนุนมาร์ตอฟคัดค้านเลนิน หนังสือพิมพ์ของบรรดาพรรคต่างๆ ในนานาประเทศแห่งสากลทีสอง ยืนอยู่ข้างเมนเชวิคเกือบทั้งหมด รายงานข่าวบิดเบือนการต่อสู้ระหว่างบอลเชวิคกับเมนเชวิค และทำการบีบฝ่ายบอลเชวิค เลนินแม้ได้ถูกอิทธิพลลัทธิแก้ที่รวมหัวกันทั้งภายในและภายนอกประเทศขู่ขวัญ ท่านมิได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อยกลับเปิดโปงการโฆษณาหลอกลวงของพวกลัทธิแก้แบบมาไม้ใหนไปไม้นั้น สากลที่สองไม่เพียงแต่สนับสนุนพวกเมนเชวิคในทางทฤษฎีเท่านั้น ทั้งยังดำเนินมาตรการทางจัดตั้งมาหนุนช่วยพวกเมนเชวิคอีกด้วย พวกเขาขัดขวางไม่ยอมให้ฝ่ายบอลเชวิคเข้าร่วมประชุมสมัชชาของสากลที่สองด้วยวิธีการร้อยแปด แต่เลนินยืนหยัดต่อสู้ ในที่สุดก็ช่วงชิงมาได้ซึ่งสิทธิ์ในการส่งผู้แทนของบอลเชวิคแต่ฝ่ายเดียวเข้าร่วมประชุมสัมนาสากลที่สอง ซึ่งจัดขึ้น ณ อัมสเตอร์ดัมในเดือนสิงหาคม 1904 ในที่ประชุมสมัชชาอัมสเตอร์ดัม ผู้แทนของบอลเชวิคได้เสนอ " ข้อมูลชี้แจงเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ภายในพรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย " ซึ่งเลนินเป็นผู้อำนวยการร่างขึ้นในนั้นได้กล่าวถึงสาเหตุทีเลนินเห็นสมควรกำหนดให้สมาชิกพรรคต้องเข้าร่วมในองค์การจัดตั้งแห่งใดแห่งหนึ่ง ของพรรคนั้นก็เนื่องจากได้คำนึงถึงระเบียบอันเจ็บแสบของพรรคสังคมประชาธิไตยเยอมัน ในระเบียบการของพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมันมิได้เรียกร้องให้สมาชิกพรรคต้องเข้าร่วมการจัดตั้งแห่งใดแห่งหนึ่งของพรรค ดังนั้นจึงถูกลัทธิแก้มาคัดค้านลักษณะพรรคอย่างกว้างขวางทั้งนี้เป็นการเผยให้เห็นอย่างลึกซึ้ง ถึงโฉมหน้าอันอัปลักษณ์ของพรรคเยอรมันและพวกลัทธิแก้สากลที่สองจะรามือแค่เพียงนี้ก็หาไม่ พวกเขาได้จัดตั้งสิ่งที่เรียกว่า " คณะกรรมการอนุญาโตตุลาการ " ขึ้นมาอีก อาศัยการ " ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท " เป็นคำอ้างแทรกแซงและยับยั้งการเปิดโปงและต่อสู้ที่บอลเชวิคกระทำต่อเมนเชวิค เลนินคว่ำบาตรการบีบคั้นจากทางจัดตั้งของสากลที่สองอย่างเด็ดเดี่ยว รักษาไว้ซึ่งจุดยืนที่เป็นหลักการของบอลเชวิค และสากลที่สองให้ถึงที่สุด พิทักษ์รักษาทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างพรรคของลัทธิมาร์กซ ในปี 1904 เลนินได้เขียนบทความเรื่อง " ก้าวหนึ่งก้าว ถอยสองก้าว " บทหนึ่ง ทำการอรรถาธิบายหลักการจัดตั้งของพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพแบบใหม่อย่างรอบด้าน เลนินชี้ว่า : พรรคมิใช่ขบวนธรรมดาขบวนหนึ่ง หากเป็นขบวนนำหน้าขบวนที่ตื่นตัวของชนชั้นกรรมาชีพ ขบวนแห่งลัทธิมาร์กซและในขณะเดียวกันก็ยังเป็นขบวนที่มีการจัดตั้งของชนชั้นกรรมกร เมื่อพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพเป็นทั้งรูปการจัดตั้งสูงสุด ซึ่งประกอบขึ้นด้วยผู้ดีเลิศทางชนชั้นและที่ติดอาวุธด้วยความชัดเจน ในการเคลื่อนไหวปฏิวัติในหมู่ชนชั้นตนเช่นนี้แล้ว ก็ย่อมมีความสามารถที่จะนำ ทั้งก็ควรที่จะนำองค์การจัดตั้งอื่นๆ ทั้งหมดของชนชั้นกรรมกรได้อย่างสิ้นเชิง พรรคจะปฏิบัติการอย่างเป็นปกติและนำมวลชนอย่างมีโครงการได้ก็จำต้องจัดตั้งอื่นๆ ทั้งหมดของชนชั้นกรรมกรได้อย่างสิ้นเชิง พรรคจะฏิบัติการอย่างเป็นปกติและนำมวลชนอย่างมีโครงการได้ก็จำต้องจัดตั้งกันขึ้น ตามหลักการรวมศูนย์ ก็จำต้องมีระเบียบการพรรคที่เป็นเอกภาพจำต้องมีวินัยพรรคที่เป็นเอกภาพ จำต้องใช้ส่วนน้อยขึ้นต่อส่วนมาก องค์การจัดตั้งชั้นล่างขึ้นต่อองค์การจัดตั้งชั้นบน ถ้าหากปราศจากเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว พรรคของชนชั้นกรรมกรก็จะไม่สามารถเป็นพรรคที่แท้จริงได้ นี่คือการพัฒนาอันสำคัญยิ่งของเลนินที่มีต่อทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างพรรคของลัทธิมาร์กซ ท่ามกลางการต่อสู้ที่คัดค้านลัทธิฉวยโอกาสสากลที่สองตลอดจนตัวแทนของมันในรัสเซีย ในที่ประชุมสมัชชาทั้วประเทศครั้งที่ 3 ของพรรคกรรมกรสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 1905 ร่างระเบียบการพรรคที่เลนินเป็นผู้เสนอก็ได้ผ่านที่ประชุมไปอย่างมีชัยในที่สุด และได้บดขยี้แนวทางการจัดตั้งของลัทธิฉวยโอกาสอย่างถึงที่สุด
นับแต่นั้นมา พรรคบอลเชวิคที่เลนินเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเอง ก็ได้เป็นแบบอย่างอันรุ่งโรจน์ในการก่อตั้งพรรคการเมืองปฏิวัติชนชั้นกรมาชีพแบบใหม่ในขอบเขตทั่วโลก
By กำเนิดของลัทธิมาร์กซ
No comments:
Post a Comment