สิ่งที่ " คนโง่ " ได้มาด้วยความยากลำบาก
คนฉลาดมี 2 ประเภท
1. คนฉลาดที่รู้จักใช้ตัวอย่างยืดหยุ่นพลิกแพลง เช่น แพทย์ ศิลปิน นักวิชาการ นักคิด นักแสดง วิศวกร สถาปนิก นักกีฬา ฯลฯ
2. คนฉลาดที่รู้จักใช้คนอื่นอย่างยืดหยุ่นพลิกแพลง เช่น ผู้ประกอบการ ผู้นำ นักบริหาร ครูฝึก นักเจรจาต่อรอง นักขาย ฯลฯ
กล่าวกันว่า " นักกีฬามือดีไม่แน่ว่าจะเป็นครูฝึกได้ " หมายความว่าความสามารถของนักกีฬากับครูฝึกต่างกัน ความสามารถแบบหลังคือ " ความสามารถในการครองใจคน " ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ในท้องตลาดมีหนังสือประเภท เคล็ดลับการเป็นผู้นำ ตลอดจน พลังแห่งการชี้นำ อยู่ไม่น้อยซึ่งเนื้อหาหลักล้วนกล่าวถึง " ความสามารถในการครองใจคน " แต่ผมอ่านแล้วยังรู้สึกว่าเกาไม่ถูกที่คัน เพราะหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่เขียนขึ้นบนจุดยืน " คนโง่ที่อวดฉลาด " กำหนดเอาเองว่าตนคือ " คนเลอเลิศ " และเขียนด้วยความรู้สึกของ " ผู้นำที่ชี้นำบริวารจากบนลงล่าง " ทำไมไม่เขียนบน " จุดยืนของคนฉลาดที่แสร้งโง่ " บ้าง ?
ผมรู้สึกว่าการอ่านหนังสือประเภทนี้ ไม่อาจช่วยเพิ่มพูนพลังแห่งการนำ มีแต่จะบั่นทอนความสามารถในการนำของตนให้น้อยลง
เมื่อศึกษาชีวิตของนักบริหารชื่อดัง จึงพบว่า รูปแบบการบังคับบัญชาจาก " ล่าง " สู่ " บน " ซึ่งก็คือท่วงทีที่สามารถ " ชนะใจคน " กลับได้ผลเด่นชัด ถ้าต้องการ " ครองใจคน " แต่ดูถูกคนอื่นว่า " โง่ " ก็ไม่อาจบรรลุเป้าหมาย
เราต่างไม่ชอบให้ใครมาดูหมิ่นเหยียดหยาม แค่ถูกเหยียดหน่อย ก็อาจสูญเสียความกล้าและความมั่นใจ บางคนถึงกับทำอะไรไม่ถูก หรือไม่ก็รู้สึกเคียดแค้นชิงชัง หาทางแก้เผ็ด หรือไม่ยอมให้ความร่วมมือ ถึงกับคอยขัดขวางทำลายก็มี
ในยุคทำสิ่งใดขายสิ่งนั้น โรงงาน ( เครื่องจักร ) ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่บุคคลมักถูกมองข้าม แต่เมื่อเผชิญกับ " ยุคขายไม่ออก " " นักขาย " ก็กลายเป็นบุคลากรที่ทุกฝ่ายต้องการโดยด่วน จึงหันมาให้ความสำคัญกับการให้คนอื่นอย่างยืดหยุ่นพลิกแพลงและการบ่มเพาะบุคลากรมากขึ้น
เมื่อเผชิญหน้ากับยุคดังกล่าว คนหัวดีก็ตกที่นั่งลำบาก เพราะไม่เข้าใจความรู้สึกของ " คนหัวไม่ดี "
คนที่สามารถอยู่อย่างสุขสบายไม่หวั่นไหวในยุคเช่นนี้ ล้วนเป็นคนที่นิสัยแบบกลางๆ คนเหล่านี้ กล้าพูดอย่างไม่ละอายว่า " ผมไม่รู้อะไรเลย " " ผมไม่ใช่คนหัวดี " " ผมเคยสอบตก "
คำพูดเหล่านี้ ให้ความรู้สึกที่ดีแก่ " คนธรรมดา " เพราะในโลกนี้มี " คนธรรมดา " มากกว่า 90% การได้ความรู้สึกที่ดีจาก " คนธรรมดา " จึงเป็นสิ่งที่มีค่าที่ " คนโง่ " ได้มาด้วยความยากลำบาก
by อิบูคิ ทาคาชิ, โทขุระ โทราโอะ ( คนฉลาดแสร้งโง่ )
No comments:
Post a Comment