เมืองไทย " เมืองยิ้ม " ( ตอนที่ ๑๖ )
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเรา
ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวอังดงามทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรมที่จะทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตื่นเต้น และซาบซึ้งอยู่มากมายหลายแห่ง ทางภาคเหนือเป็นพื้นที่ราบสูง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ อันเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ ในขณะที่ภาคอีสานเคยเป็นดินแดนที่เคยรุ่งเรืองมาแล้วในอดีต ส่วนทางภาคใต้ก็มีเกาะที่สวยงามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแสงอาทิตย์สิ่งตลอดปี ในขณะที่ภาคกลางปกคลุมไปด้วยพื้นที่อันอุดสมบูรณ์กว้างใหญ่ไพศาล เหมาะสมกับการเกษตรกรรม ( เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศไทย )
แต่ก่อนที่จะท่องเที่ยวไปยังภาคหนึ่งภาคใดของประเทศ นักท่องเที่ยวควรจะเยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจต่างๆ ในกรุงเทพมหานครเสียก่อน แน่นอนที่สุดกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่สวยงามโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม และธรรมชาติซึ่งไม่สามารถที่จะบรรยายให้หมดภายใน ๒ - ๓ หน้ากระดาษได้สถานที่ควรจะไปเยี่ยมชมได้แก่ สถานที่ดังต่อไปนี้ พระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว ซึ่งได้รับการบรรยายว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์ทางด้านสถาปัติยกรรมที่สวยงามที่สุดในเอเชียแห่งหนึ่งในด้านสีสัน รูปการออกแบบและศิลปกรรม ทางด้านฝั่งตะวันตกของท้องสนามหลวงก็เป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด และรวบรวมวัตถุโบราณไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งอยู่ข้างๆ พระบรมมหาราชวังก็คือ วัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุด นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังจัดว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษาของประชาชนแห่งแรกอีกด้วย และด้วยเหตุนี้บางครั้งก็เรียกว่าเป็น " มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย "
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีก็คือ วัดอรุณราชวราราม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ไม่อาจจะลืมได้แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และมักจะมีปรากฏการณ์ให้เห็นในหนังสือค่มือนักท่องเที่ยวเสมอ สิ่งปลูกสร้างที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดของวัดนี้กคือ พระปรางค์ที่มีความสูง ๘๒ เมตร
และตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน บนถนนศรีอยุธยาก็คือ วัดเบญจมบพิตรวัดนี้มีชื่อเสียงก็เพราะว่า พระอุโบสถของวัดเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศของสถาปัตยกรรมไทยยุคใหม่บริเวณลานหลังพระอุโบสถมีพระพุทธรูป ๕๓ องค์ ซึ่งส่วนใหญ่ลอกเลียนแบบมาจากพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและรูปทรงแบบต่างๆ จากทั่วประเทศ และจากประเทศที่นับถือพุทธศาสนาอื่นๆ
ออกจากถนนอู่ทองในถัดจากรัฐสภาข้ามฝั่งตะวันตกของสวนสัตว์ดุสิตไป ก็คือ พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งเป็นคฤหัสน์ชั้น ๓ สร้างด้วยไม้สักทองล้วน รูปอักษร L ( ตัวแอล ) สวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก่อนนี้เป็นวังหลังรัชกาลที่ ๕ ภายในคฤหัสน์ประดับประดาด้วยสิ่งของส่วนพระองค์และวัตถุทางศิลปกรรมอีกบางส่วน
ตั้งอยู่สุดซอยเกษมสันต์ ๒ ตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ บนถนนพระราม ๑ ก็คือ บ้านทรงไทย จิม ทอมสัน บ้านทรงไทยอันสวยงามสง่าแห่งนี้เป็นผลงานของ นายจิม ทอมสัน ชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งเข้ามาเมืองไทยในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ ๒ และทำการฟื้นฟูอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยขึ้นใหม่ สิ่งที่แสดงในบ้านหลังใหญ่ก็คือ ของสะสมทางด้านศิลปะเอเชียเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งของงดงามส่วนตัวของเขา
ท้ายที่สุดนี้ สถานที่อื่นๆ ที่ไม่ควรจะพลาดก็คือ เวทีมวยไทย ความจริงแล้ว เวทีมวยไทยนี้มีใช้ชมอยู่ ๒ แห่งคือ สนามมวยลุมพินี แะ สนามมวยราชดำเนิน มวยไทยนี้เป็นทั้งการกีฬาและศิลปะป้องกันตัว เพราะว่านักมวยจะได้รับอนุญาตให้ใช้อวัยวะเกือบทุกส่วนของร่างกาย นับเป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมากจริงๆ
ที่กล่าวมานี้คือ สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร สถานที่อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็คือ ตลาดนัดสุดสัปดาห์ ( สวนจุตจักร ) สวนสัตว์ดุสิต และ ตลาดเยาวราช ถ้าเป็นไปได้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนราชอาณาจักรไทย ควรจะไปเยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจอื่นๆ นอกเขตกรุงเทพฯ ด้วย เช่น วัดไผ่ล้อม วัดนี้เป็นที่อยู่อาศัยของนกปากห่าง ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดปทุมธานีตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมิถุนายน นกปากห่างจำนวนหลายพันตัวจะมาวางไข่ในบริเวณวัดนี้
สถานที่แนะนำให้ไปเที่ยวอื่นๆ ได้แก่ วังโราณ ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญรที่สุดในโลก และที่จังหวัดนี้ยังมีฟาร์มจระเข้อีกด้วย นับเป็นฟาร์มที่กว้างใหญ่มาก มีจระเข้อยู่ถึง ๓๐,๐๐๐ ตัว มีทั้งจระเข้าน้ำจืดและจรเข้น้ำเค็ม
ถ้าลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ ประมาณ ๘๐ กม. ก็จะเป็นตลาดน้ำดำเนินสะดวก ที่นี่มีเรือพายขนาดเล็กบรรทุกผลไม้เมืองร้อน และผักเกือบทุกชนิด พร้อมทั้งพืชผลจากสวน หรือจากชุมชนใกล้เคียงมารวมกัน เพื่อทำการค้าขายแลกเปลี่ยนวินค้ากันมากมาย และถ้าขึ้นไปทางเหนือของเมืองเก่า ยังคงมีให้เห็นอยู่และบางส่วนก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูบ้างแล้ว
เนื่องจากความเจริญรุ่งเรืองทางด้านมรดกทางวัฒนธรรม และสิ่งดึงดูดทางธรรมชาติอันสวยงามนี่เอง ผู้มาเที่ยวเมืองไทยจะไม่ผิดหวังเลย เพราะว่าเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าจริงๆ พวกเขาจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และได้รับความเอื้ออารีย์จากคนท้องถิ่นเป็นอย่างดี พวกเขาจะมีความรู้สึกว่านี่คือบ้านที่สองของพวกเขา ประเทศไทยหรือสยามเมืองยิ้มนี้ ยินดีต้อนรับทุกๆ คน และพวกเขาควรจะมาสัมผัสด้วยสายตาตนเองมากกว่าที่จะอ่านจากหนังสือคู่มือนักท่องเที่ยว
By Essays on Thailands
No comments:
Post a Comment