เดินไปเดินมาให้เงินเดือนสองหมื่น
อารามหลิงซู่ตั้งขึ้นตามชื่อกุฏิที่ฌานาจารย์หยูหมิ่นพำนักอาศัยยี่สิบปีแล้วที่อารามหลิงซู่ไม่มีเจ้าอาวาสรับผิดชอบดูแลอารามเป็นทางการทุกครั้งที่มีญาติโยมถามถึงเรื่องนี้ ฌานาจารย์หยูหมิ่นมักตอบในทำนองว่า " เจ้าอาวาสของอาตมาเพิ่งเกิด " เจ้าอาวาสของอาตมาเลี้ยงแกะอยู่ " " เจ้าอาวาสของอาตมาอยู่ในระหว่างเดินทาง " ฯลฯ ทำให้ญาติโยมอดรู้สึกพิศวงงงงวยมิได้
มาวันหนึ่ง อยู่ ฌานาจารย์หยูหมิ้นก็สั่งหลวงจีนในวัดตีฆ้องตีกลอง เรียกหลวงจีนและเณรทั้งหมดไปต้อนรับเจ้าอาวาสที่ประตูทางขึ้นเขา ขณะที่หลวงจีนและเณรทุกรูปแปลกประหลาดใจอยู่นั้น ฌานาจารย์หยุนเหมินก็เดินจีวรพลิ้วมาถึงพอดี ฌานาจารย์หยูหมิ่นนิมนต์ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาส
ตั้งเจ้าอาวาสอารามแห่งหนึ่ง ใช้เวลานานถึง ๒๐ ปี แสดงถึงความระมัดระวังและพิถีพิถันในการเลือกบุคลากรเป็นอย่างยิ่ง สมัยโบราณจะไม่ปล่อยให้ผู้ไร้ความสามารถและคุณธรรมฉกฉวยโอกาสผสมโรงเกาะกินผู้อื่นง่ายๆ บางครั้งตำแหน่งว่างลง ก็ต้องรอจนกว่าได้คนที่เหมาะสมจึงตั้งให้แทนที่ บางครั้งแม้ได้คนมีความรู้และคุณสมบัติเพียบพร้อมแล้วยังต้องรอจนกว่าสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมเอื้ออำนวย จึงให้ขึ้นสู่ตำแหน่งได้
ฌานาจารย์หยนเหมินเดิมพำนักอยู่ในอารามหลิงซู่ ต่อมาไปเผยแพร่พุทธธรรมที่เทือกเขาหยุนเหมินซาน แม้ฌานาจารย์หยูหมิ่นจะมีญาณทิพย์คาดการณ์ล่วงหน้าได้ ก็ต้องรอจนกว่าฌานาจารย์หยุนเหมินพร้อมถึงซึ่งคุณสมบัติอันจำเป็นแล้ว จึงมอบภาระอันใหญ่หลวงแก่ท่าน
หวนกลับมาดูสมัยนี้ คนจำนวนมากขึ้นนั่งตำแหน่งใหญ่โตด้วยการเกาะชายกระโปรงผู้หญิงหรือเลียแข้งเลียขาเจ้านาย ทั้งที่ไม่มีคุณธรรมและความสามารถที่แท้จริง วิธีการแบบพรรคพวก เดินไปเดินมาให้เงินเดือนสองหมื่นลักษณะนี้ แตกต่างกับวิธีการคัดเลือกผู้มีสติปัญญาและคุณธรรมในสมัยโบราณอย่างสิ้นเชิง
By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้
No comments:
Post a Comment