ยิ่งมากยิ่งดี
นักบำเพ็ญศีล หยางถิงกวาง ขอคำแนะนำจาฌานาจารย์เปิ่นจิ้งว่า " พวกปราชญ์ในเมืองหลวงล้วนบอกฉันว่า ' ศึกษาพุทธธรรม ต้องเริ่มจากบริจาคทาน ถือศีล อดกลั้น ให้อภัย และบำเพ็ญทุกรกริริยา ฯลฯ ' แต่อาจารย์ท่านบอกว่า ' ปัญาญาณอันบริสุทธิ์นั้น คนเรามีพร้อมโดยกำเนิดไม่จำเป็นต้องอาศัยการบำเพ็ญเพียร ' หากเป็นเช่นนี้จริง การบริจาคทานถือศีล และบำเพ็ญเพียรที่แล้วมาของฉัน มิเท่ากับสูญเปล่าดอกหรือ ? "
ฌานาจารย์เปิ่นจิ้งตอบอย่างหนักแน่นว่า " ใช่ สูญเปล่า! "
เหตใดฌานจารย์จึงตอบว่าสูญเปล่าเล่า ? อันที่จริง บุญกับกุศลแตกต่างกัน การบริจาคทานและถอศีลนั้นได้บุญ ทำมากเท่าใดก็ได้บุญมากเท่านั้น ( บุญเป็นโลกียะ) แต่กุศลไม่มีขอบเขต มีโดยตัวมันเอง ไม่ต้องมีหลักฐาน ไม่ต้องอาศัยการบำเพ็ญเพียร ( กุศลเป็นโลกุตระ ) สิ่งที่เรียกว่าพุทธะและตถตานั้น ทุกคนมีอยู่แล้วไม่ต้องแสวงหาจากภายนอก
อย่างไรก็ตาม โศลกธรรมบทหนึ่งมีความว่า " ทำบุญหนึ่งส่วน ได้บุญหมื่นเท่า ถ้าไม่เชื่อ ขอให้จงดูจักรพรรดิเหลียงอู่ตี้เป็นตัวอย่างบริจาคเล็กน้อย พลอยได้ครองแผ่นดิน "
ถ้าคนเรายินดีทำบุญทำทานถือศีลกินเจ ก็ดังหนึ่งมีกุญแจเปิดประตูเข้าสู่เมตตาธรรมแห่งพุทธศาสนา ก่อนที่จะรู้แจ้งเห็นจริงหรือเกิดกุศลอย่างแท้จริง ยังคงทำบุญถือศีลปฏิบัติธรรมให้มากเข้าไว้ เพราะทำมากก็ยิ่งได้บุญมาก
By เซน : วิถีแห่งความสุขที่แท้
No comments:
Post a Comment