มีความสวยงามก็จะต้องมีความอัปลักษณ์เป็นของคู่กัน
ถ้าเราไม่อวดว่าเราสวย
ใครจะว่าเราอัปลักษณ์ ?
มีความสะอาดก็จะต้องมีความสกปรกเป็นปรปักษ์
ถ้าเราไม่คุยโอ่ในความสะอาดบริสุทธิ์
ใครจะมาว่าเราสกปรก ?
นิทัศน์อุทาหรณ์
สี่อิ๋วล้างหูอันที่จริงเล็กหรือใหญ่นั้น มิใช่เป็นสิ่งสมบูรณ์ อันหมายความว่า มิใช่ว่าเขาใหญ่ก็อยู่ได้ตลอดไป และเล็กก็เล็กอยู่อย่างนั้น หมายความว่า มิใช่ว่าใหญ่ก็อยู่ได้ตลอดไป และเล็กก็เล็กอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ
สรรพสิ่งหนึ่งใดก็ได้ มีเล็กมาเทียบเคียงจึงจะแสดงให้เห็นถึงความใหญ่ของมันได้ แต่ถ้าหากมีสิ่งที่ส่วนใหญ่กว่ามาเปรียบเทียบ มันก็จะกลายเป็นเล็กไปในทันที
ความสวยงามกับความอัปลักษณ์ ความสะอาดกับความสกปรกก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราจึงควรให้ความสนใจแก่การบ่มเพาะคุณธรรมความประพฤติของเราให้มาก ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปโอ้อวดความดีของตนอย่างหลับหูหลับตาเลย
จีนสมัยโบราณ มีชายคนหนึ่งชื่อว่าสี่อิ้ว พระเจ้าหยาวรู้ว่าเขาเป็นคนมีความรู้ความสามารถ จึงคิดจะมอบราชบัลลังค์ให้กับเขาแต่เขาไม่ยินดีจะเป็นฮ่องเต้ จึงหนีไปอยู่ในที่ห่างไกล
ต่อมาไม่นาน พระเจ้าหยาวก็เชิญเขาออกมาเป็นขุนนางอีก เขายังคงไม่ยินดี กลับไปนั่งล้างหูอยู่ริมธาร
บังเอิญมีชายชราคนหนึ่ง จูงควายมากินน้ำในลำธาร เห็นเข้าก็ถามว่าสี่อิ้วว่า เหตุใดจึงต้องล้างหู
สี่อิ้วตอบว่า " พระเจ้าหยาวเรียกข้าพเจ้าไปเป็นขุนนาง ข้าพเจ้าเกรงว่าเสียงของพระองค์จะทำให้รูหูของข้าพเจ้าสกปรก จึงต้องล้างเสียให้สะอาด "
ชายชราคนนนั้นจึงว่า " ถ้าท่านหลบเข้าไปอยู่เสียในภูเขาลึก ก็จะไม่มีใครรู้ทัน ดังนี้ ยังจะมีใครมาเรียกท่านไปเป็นขุนนางอีก ? แต่ท่านกลับท่องมาอยู่ในโลกภายนอกเช่นนี้ จงใจจะให้เขาได้ยินชื่อเสียงของท่าน เชอะ ! เกรงว่าน้ำที่ท่านล้างหู จะทำให้ปากควายของข้าพเจ้าสกปรกไปด้วยซ้ำ ! "
พูดจบชายชราก็จูงควายของเขาเดินขึ้นไปกินน้ำยังต้นน้ำ
สี่อิ้วถ้าหากไม่แสดงว่าตนเองสูงส่งไม่มีใครเทียบแล้ว ก็คงจะไม่ถูกชายชราคนนั้นพูดแดกดันเอาจนหน้าชาเป็นไปเป็นแน่
By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
No comments:
Post a Comment