Friday, November 09, 2012

มาร์กซ - เองเกลส์ ต่อสู้เพื่อสร้างพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพ

มาร์กซ - เองเกลส์ 
ต่อสู้เพื่อสร้างพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพ

          เมื่อจะปฏิวัติก็ต้องมีพรรคปฏิวัติพรรคหนึ่ง หากไม่มีพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพที่ชี้นำด้วยลัทธิมาร์กซพรรคหนึ่งแล้ว การปฏิวัติก็จะไม่ได้รับชัยชนะ มาร์กซ - เองเกลส์สร้างทฤษฎีปฏิวัติที่เป็นวิทยาศาสตร์ขึ้นนั้น มิใช่สร้างทฤษฎีเพื่อทฤษฎี หากเพื่อใช้ในการชี้นำการเคลื่อนไหวปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพ เพื่อให้ได้มาซึ่งการปลดแอกของชนชั้นกรรมาชีพ ดังนั้น ในขบวนการสร้างทฤษฎีปฏิวัตินั้นมาร์กซ - เองเกลส์ได้เน้นเป็นพิเศษว่า จะต้องประสานเข้ากับการเคลื่อนไหวของกรรมกร และทั้งสองลงมือทำการก่อตั้งพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพอย่างเอาการเอางาน

           ในปี 1845 - มาร์กซ - เองเกลส์ได้ก่อตั้ง " คณะกรรมกรสื่อสารลัทธิคอมมิวนิสต์ " ขึ้นที่บรัสเซิลล์ประเทศเบลเยี่ยม ได้เชื่อมความสัมพันธ์กับนักลัทธิคอมมิวนิสต์และองค์กรกรรมกรในประเทศต่างๆ หลายประเทศ ท่านทั้งสองสนใจ " สันนิบาตผู้รักความเป็นธรรม " แห่งเยอรมันเป็นพิเศษ องค์การนี้เดิมเป็นสมาคมลับที่จัดตั้งขึ้นที่ปารีสในปี 1336 โดยหัตถกรชาวเยอรมันกลุ่มหนึ่งที่ออกไปหากินในต่างประเทศ ต่ามาองค์การนี้ได้มีลักษณะสากลระดับใดระดับหนึ่ง คำขวัญขององค์การนี้คือ " ทุกๆ คนล้วนเป็นพี่น้องกัน " สังคมนิยมเพ้อฝันของเวทลิน สังคมนิยมแท้แห่งเยอรมันและลัทธิปรูดองมีผลสะเทือนต่อพวกเขามาก การต่อสู้ที่มาร์กซและเองเกลส์กระทำต่อพวกสังคมนิยมเพ้อฝัน และพวกลัทธิฉวยโอกาสชนิดต่างๆ ได้ส่งเสริมให้ทรรศนะของสมาชิก " สันนิบาตผู้รักความเป็นธรรม " เกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าทฤษฎีลัทธิคอมมิวนิสต์นั้นถูกต้อง และเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงสันนิบาตเสียใหม่

            ด้วยการเชื้อเชิญของสันนิบาต มาร์กซ - เองเกลส์ก็ได้เข้าร่วมองค์การนี้ในปี 1847 เองเกลส์ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาครั้งที 1 ของสันนิบาตซึ่งจัดขึ้นที่ลอนดอนการประชุมครั้งนั้นได้ดำเนินการปรับปรุงสันนิบาตเสียใหม่โดยก่อตั้งสันนิบาตนักลัทธิคอมมิวนิสต์ ขึ้นเป็นพรรคการเมืองชนชั้นกรรมาชีพที่ชี้นำด้วยทฤษฎีลัทธิคอมมิวนิสต์พรรคแรกในประวัติศาสตร์ขึ้นแทน คำขวัญของสันนิบาตผู้รักความเป็นธรรมที่ว่า " ทุกๆ คนล้วนเป็นพี่น้องกัน " นั้นก็ถูกแทนที่ด้วยคำขวัญสู้รบที่ว่า " ชนชั้นกรรมาชีพจงรวมกันเข้า " อันเป็นคำขวัญที่มาร์กซ - เองเกลส์เป็นผู้เสนอขึ้น มาร์กซ - เองเกลส์ได้สมานสามัคคีนักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพจำนวนหนึ่งภายใต้คำเรียกร้องที่สู้รบนี้ และวันเวลาแห่งการสู้รบของขบวนการลัทธิคอมมิวนิสต์สากลก็ได้เริ่มขึ้น



            ในเดือนพฤศจิกายน - เดือนธันวาคม ปี 1947 มีการประชุมสมัชชาครั้งที่สอง " สันนิบาตนักลัทธิคอมมิวนิสต์ " มาร์กซและเองเกลส์ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ร่างหลักนโยบายของสันนิบาต, นั่นก็คือ " แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ " อันลือชื่อ ซึ่งได้ประกาศเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1848

สาระพื้นฐานและความหมายของ 
" แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ "

            " แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ " เป็นเอกสารที่มีลักษณะหลักนโยบายชิ้นแรกของลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่เป็นวิทยาศาสตร์ เอกสารได้อรรถาธิบายถึงรากฐานแห่งคำสอนของลัทธิมาร์กซไว้อย่างครบถ้วนและรัดกุม คำสอนเกี่ยวกับการต่อสู้ทางชนชั้นของลัทธิมาร์กซเป็นด้ายแดงเส้นหนึ่งร้อยหนังสือทั้งเล่มตั้งแต่ต้นจนจบ ใน " แถลงการณ์ " นี้มาร์กซและเองเกลส์ได้ใช้ทรรศนะวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ไปพินิจพิเคราะห์ประวัติการพัฒนาของสังคมมนุษย์ ได้อรรถาธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ให้เห็นชัดถึงกฏภววิสัยแห่งการพัฒนาของสังคมที่ทุนนิยมจักต้องได้รับชัยชนะ มาร์กซและเองเกลส์ได้ชี้เป้าหมายในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ชนชั้นกรรมาชีพซึ่งก็คือสร้างลัทธิคอมมิวนิสต์ขึ้น เพื่อให้บรรลุถึงจุดหมายนี้ ก็จำต้องใช้กำลังรุนแรงโค่นล้มเผด็จการชนชั้นนายทุน สร้างเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพขึ้นและแล้วจึงอาศัยอำนาจเผด็จการนี้ไปกำราบปราบปรามการต่อต้านของชนชั้นนายทุน ทำลายระบอบกรรมสิทธิ์เอกชน ทั้งจะต้องแยกทางกับมโนคติแห่งกรรมสิทธิ์เอกชนอย่างเด็ดขาด ; สร้างสังคมคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีชนชั้นขึ้น ใน " แถลงการณ์ " มาร์กซ - เองเกลส์ได้ชี้ไว้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์เป็นกองหน้าของชนชั้นกรรมาชีพ ถ้าไม่มีพรรคคอมมิวนิสต์ การปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพก็ไม่สามารถได้รับชัยชนะ " แถลงการณ์ " ยังได้กำหนดแนวทางและยุทธวิธีของชนชั้นกรรมาชีพ ในการปฏิวัติประชาธิปไตยชนชั้นนายทุน ทั้งยังได้วิพากษ์สังคมนิยมเพ้อฝันและสังคมนิยมจอมปลอมนานาชนิดที่แขวนป้ายสังคมนิยม สุดท้ายมาร์กซและเองเกลส์ได้เสนอคำขวัญ " ชนชั้นกรรมาชีพทั่วโลกจงรวมกันเข้า " อันยิ่งใหญ่ การปรากฏต่อโลกของ " แถลงการณ์ " เป็นสัญญลักษณ์แห่งจุดเริ่มต้นใหม่ของขบวนการลัทธิคอมมิวนิสต์สากล เป็นสัญลักษณ์แห่งจุดตั้งต้นใหม่ของการต่อสู้ปลดแอกชนชั้นกรรมาชีพ สตาลินกล่าวว่า : " มาร์กซและเองเกลส์ได้ใช้ ' แถลงการณ์ ' ของตน สร้างยุคสมัยขึ้นยุคหนึ่ง นับแต่นั้นมา สังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ก็เป็นเป้าหมายในการตอสู้ ของมวลชนผู้ใช้แรงงานเรือนร้อยล้านคน " แถลงการณ์ " ได้ประกาศมาหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว แต่เจตนารมณ์ของแถลงการณ์ก็ยังคงปลุกเร้าและผลักดันชนชั้นกรรมาชีพในโลกอารยะที่มีการจัดตั้งทั้งมวล และที่กำลังเดินการต่อสู้ตราบจนทุกวันนี้ ความคิดพื้นฐานใน " แถลงการณ์ " กลายเป็นอาวุธทางความคิดอันเกรียงไกร ที่ชนชั้นกรรมาชีพและประชาชนที่ปฏิวัติทั่วโลก ที่ใช้คัดค้านพวกลัทธิฉวยโอกาสและพวกลัทธิแก้นานาชนิด ที่มุ่งหวังจะขัดขวางการไหลไปข้างหน้าของกระแสธารประวัติศาสตร์พวกลัทธิแก้ทั้งเก่าและใหม่ มุ่งหวังที่จะแก้หลักการพื้นฐานของแถลงการณ์ คัดค้านการปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพและเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ ในที่สุดล้วนแต่ประสบความล้มเหลวและถูกประชาชนที่ปฏิวัติกวาดเข้าไปในกองขยะ แห่งประวัติศาสตร์ไปเสีย

            เมื่อทบทวนดูวันเวลาแห่งการต่อสู้ของขบวนการลัทธิคอมมิวนิสต์สากลในระยะร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ เราเชื่ออย่างลึกซึ้งว่า ลัทธิมาร์กซ - ลัทธิเลนิน นั้นรบที่ใหนชนะที่นั่น ไม่ว่าบนหนทางที่ก้าวไปข้างหน้า จะประสบความยากลำบากและภยันตรายสักปานใดก็ตาม สังคมนิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์ก็จักต้องปรากฏเป็นจริงขึ้น ในขอบเขตทั่วโลกอย่างแน่นอน





By กำเนิดลัทธิมาร์กซ

No comments:

Post a Comment