Wednesday, December 12, 2012

ขุนช้าง - ขุนแผน " แว่นใหม่ที่ใส่มอง " ( ตอนที่ 6 )

ขุนช้าง - ขุนแผน " แว่นใหม่ที่ใส่มอง " ( ตอนที่ 6 )

          ขอให้พักทำใจอ่านศัพทการในคำบริภาษแห่งกษัตริย์ราชเจ้าที่ท้าวเธอมีแก่วันทองจากโอษฐ์ของพระพันวสาต่ออีกสักนิด

รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ
ใจไม่ซื่อสมศักดิ์เท่าเส้นผม
แต่ใจสัตว์มันยังมีที่นิยม
สมาคมก็แต่ถึงฤดูมัน

มึงนี้ถ่อยยิ่งกว่าถ่อยอีท้ายเมือง
จะเอาเรื่องไม่ได้สักสิ่งสรรพ
ละโมบมากตัณหาตาเป็นมัน
สักร้อยพันให้มึงไม่ถึงใจ

ว่าหญิงชั่วผัวยังคราวละคนเดียว
หาตามตอมกันเกรียวเหมือนมึงไม่
หนักแผ่นดินกูจะอยู่ไย
อ้ายไวยมึงอย่านับว่ามารดา

กูเลี้ยงมึงถึงให้เป็นหัวหมื่น
คนอื่นรู้ว่าแม่ก็ขายหน้า
อ้ายขุนช้างขุนแผนทั้งสองรา
กูจะหาเมียให้อย่าอาลัย

หญิงกาลกิณีอีแพศยา
มันไม่น่าเชยชิดพิศมัย
ที่รูปรวยสวยสมมีถมไป
มึงตัดใจเสียเถิดอีคนนี้

เร่งเร็วเหวยพระยายมราช
ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี
อกเอาขวานผ่าอย่าปราณี
อย่าให้มีโลหิตติดดินกู

เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน
ตกดินจะอัปรีย์กาลีอยู่
ฟันให้หญิงชายทั้งหลายดู
สั่งเสร็จเสด็จสู่ปราสาทชาย

           ขอให้ทบทวนอีกครั้งว่า พระพันวสา ณ เวลานี้ทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษามิใช่กษัตริย์การตัดสินความจึงต้องเที่ยงธรรมและห้ามใช้อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดมาชี้ผิดชี้ถูกให้จำเลย



           พระพันวสาไม่เคยแม้แต่จะเห็นความเป็นจริงเสียด้วยกระมังว่าการด่าทอวันทองเลวร่านยิ่งกว่าสัตว์ที่มีอารมณ์กำหนัดตามฤดูกาลผิดกับวันทองที่ร่านเลว ( ราวโสเภณีท้ายเมือง ) ถึงจะมีผัวเป็นร้อยเป็นพันก็ยังไม่หนำใจ ด่าไปด่ามาก็ไม่ให้พลายงามนับถือว่าเป็นแม่เสียด้วยแถมจะช่วยหาเมียใหม่ให้ขุนช้างขุนแผน ตายแล้วก็หักแผ่นดินต้องเอาใบตองรองเลือดให้หมากินเพาะว่าเป็นกาลกิณีสุดชั่ว เอาตัวไปตัดหัวประจานให้ชาวบ้านชาวเมืองดูเป็นเยี่ยงอย่าง

            สั่งเสร็จก็เสด็จกลับ

            รับไม่ได้เลยผับผ่า! แค่ข้อหามีผัวสองคนแล้วพ่นทูลไม่ออกเท่านี้ถูกบริภาษน่ะไม่เท่าไหร่เพราะยังไงๆ ผู้ชายก็เห็นหญิงเป็นเดรัจฉานมาแต่โบราณกาลแล้ว แต่ข้อหาที่โยนยัดน่ะน่าอนาถจิตมากกว่า

            หาความยุติธรรมตรงไหนไม่พบซักซีกสักกะผีกริ้น การสิ้นชีวิตของวันทอง ถ้าไม่นับความบกพร่องอย่างมหันต์ของพระพันวสา น่าจะโยนให้ขุนช้างขุนแผนและพลายงามเต็มส่วน เพราะล้วนแต่กระชากลากพาให้นางมาตาย สุดท้ายพอถูกสั่งตัดหัว 3 ชายก็ตัวสั่นงันงกตกประหม่าพูดจาไม่ออกเอาดื้อๆ 

            ถือว่าขี้ขลาดสิ้นดี

            ใครที่ห้อยขุนแผนแสนศักดาแล้วบอกว่าอยู่ยงคงกระพัน กล้าหาญเป็นยอดก็จงถอดออกเสียเถิด เปิดใจเป็นธรรมสักนิด บางทีดวงจิตกับดวงตาอาจแจ่มจ้าขึ้นบ้าง

            เมื่อนางวันทองต้องโทษเสร็จสรรพ พระพันวสายังรับบทบาทชี้นิ้วสั่งการต่อ แต่ก็มีประปรายคล้ายว่าอายุยืนนานมาถึงรุ่นหลานขุนแผนด้วย เป็นตัวช่วยชูโรงแทนขุนช้างในบางครา แต่ว่ามีช่วงหนึ่งพึงอ่านจับความตามทำนองดู :-

พระจึงมีสีหนาทประภาษถาม
อ้ายพลายงามเป็นกระไรจึงหมองศรี
ดูหน้าตาฝ้าคล้ำไม่มีดี
เอ็งนี้ไม่สบายด้วยอันใด

หรือเมียมึงหึงหวงจ้วงจาบ
หยามหยาบเกินหรือไฉน
ใครมีเมียสองมักหมองใจ
จะหาความสบายได้มิไคร่มี

ถ้าแม้นมีสามสี่เสียดีกว่า
ต้องตำราว่าเป็นสุขเกษมศรี
แน่ะกูว่าแล้วเอ็งตรองดูให้ดี
มันจะเป็นราคีข้างหน้าไป

           จะเห็นได้ว่าสันดานผู้ชาย ( ไทย ) น่ะร้ายกาจนัก ถ้าหากเสภาขุนช้างขุนแผนใจถึงกว่านี้ควรจะเปิดทางให้กวีหญิงได้สำแดงฝีมือบ้าง บางทีมุมที่ผู้ชายไทยไม่เคยฟัง หรือเคยถามถึงความอดอั้นในการเป็นหญิงไทยสมัยก่อน อาจจะมีคำกลอนเด็ดๆ เพล็ดแพลมเป็นของแถมก็ได้ใครจะไปรู้ ไม่ว่าผู้ชายผู้หญิงลองมีเมียสองผัวสองมักหมองตรมทั้งสิ้น แต่จะให้เล่นลิ้นมีเมียสามเมียสี่เข้าที่ดีกว่าเมียสอง

           รับรองไม่จริงดังว่า

           ต่อให้มีเงินตราเป็นพันล้านหรือมีกำลังดังช้างสารด้วย
           
          ความคิดห่วยๆ พรรค์นี้เลิกเสียทีเถอะครับ

          สำหรับพระพันวสาถึงแม้ว่าลีลาจะไม่โดดเด่น แต่เป็นบทที่ทำให้เห็นตำนานการประจบสอพลอฉ้อฉลราษฎร์บัหลวงของปวงราชการไทยซึ่งตกทิ้งทอดไว้อยู่จนถึงปัจจุบัน

          เห็นกันจะจะ

          ตัวละครตัวสุดท้ายได้แก่

          วันทอง

          ตามท้องเรื่องเดิมชื่อพิมพิลาไลยเป็นธิดาของพันศรโยธากับนางศรีประจัน วัยเด็กนั้นยังไม่โลดโผนพอโตก็โดนบรรดากวีเหวียงแหโลกียะมาให้สวม กล่าวคือดูสำรวมเสงี่ยมหงิม แต่

คอคางบางแบบกระทัดรัด
เล็บยาวขาวขัดดูงามสม
ไม่บกพร่องบกอกนางอล่างนม
ค่อยผงมสงวนต้องประคองทรวง

( ขุนแผนขึ้นห้องนางพิมคอรั้งแรก )
และ :-

สายทองนางพิมอยู่ริมตลิ่ง
หัวเราะล้มกลิ้งไม่ลุกได้
ขุนช้างทะยานงุ่นง่ามใจ
ผ้านางพิมไพล่จากรักแร้

ขุนช้างเห็นนมกลมตะละปั้น
มือคั้นหน้าแข้งยึนแยงแย่
โคลงตัวคลุกคลุกเป็นตุ๊กแก
อีแม่เอ๋ยวันนี้กูตาย

( ขุนช้างแอบดูนางพิมอาบน้ำ )

           วันทองต้องตกเป็นเหยื่อคนอ่านคนเขียนคนฟังตั้งแต่แรก เพราะบทเพียรแทรกกามาเข้าเป็นระยะ สร้างความตะกละตะกรามกามแก่ขุนช้างขุนแผนแล่นเวียนกันไป ไม่มีใครที่จะไม่คิดจะรวมเพศกับนางพิมเมื่อพบพาน เพราะกวีสร้างความสะคราญตามมาบดบังความตระการใจไว้ก่อนเสียแล้ว โดย

           พลายแก้วใช้ความนำร่อง ส่วนขุนช้างใช้เงินทองผสมกับความดื้อด้านของตนเป็นหลัก

           แต่นางพิมนั้นรักขุนแผนคนเดียว ทว่าความไม่เด็ดเดี่ยวอันเป็นพื้นฐานของหญิงไทยทำให้นางอาลัยในขุนช้าง ที่ไม่เคยสร้างความช้ำใจในความรักเกเช่นขุนแผนฝากความแค้นเคืองซ้ำซาก

            หากพิจารณาโดยถี่ถ้วน นางพิมควรได้รับความเห็นใจอย่างยิ่งด้วยซ้ำ

           กรรมของเธอที่เป็นหญิงโบราณ

           กรรมของเธอที่ดันเจอชายอย่างขุนแผนและขุนช้าง

           กรรมของเธอที่ต้องเป็นนางเอกในวรรณคดี

           กรรมที่เป็นมหากรรมคือการไม่รักนวลสงวนตัว คิดจะมีผัวตั้งแต่ยังเยาว์

           หมองเศร้ามาทุกยุคทุกสมัย

           กรรมที่มีคนฟังอ่านไม่แตกฉานพอ

           สุดท้ายก็เป็นกรรมเหนือกรรมที่ถูกถ้อยคำย่ำยีแบบที่มิมีทางต่อสู้โต้เถียง

           ผมจะไล่เลียงตามลำดับปรากฏ

           ว่าเธอโดนบทโหดร้ายทำลายเป็นจุณ

           ยิ่งกว่าขุนช้างหลายเท่าตัว

           พูดง่ายๆ เธอชั่วเพราะชายทรามๆ






By คมทวน  คันธนู ( วรรณวิพากษ์ )

No comments:

Post a Comment