Friday, November 30, 2012

ความอยาก

ลาอยากมีรัก

          มีเรื่องเล่าสืบต่อกนมาว่าในกาลสมัยหนึ่ง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็๋นมนุษย์มีนามว่า " กัปปะ " เป็นพ่อค้าชาวเมืองพาราณสี และพระอานนท์เสวยชาติเป็นลาของพระองค์

          ลาหนุ่มตัวนี้เป็นลาที่แข็งแรงและรูปร่างงดงามมาก นอกจากนี้ยังบรรทุกสัมภาระได้มาก และเดินทางได้ไกล

          วันหนึ่งกัปปะได้นำลาบรรทุกสินค้าไปขายยังเมืองตักสิลา เมื่อเดินทางถึงตัวเมืองเขาไดไปติดต่อขายสินค้ายังที่ต่างๆ ปล่อยลาให้พักผ่อนแลัวนัดพบตามเวลาที่นัดไว้

          เจ้าลาหนุ่มได้ออกเดินชมเมืองเป็นการพักผ่อน ครั้นเดินมาถึงคูเมืองก็ได้พบกับลาสาวเจ้าตัวหนึ่ง ลาทั้งสองได้ทักทายทำความรู้จักกัน และก่อเกิดความชอบพอกันในที่สุด เจ้าลาหนุ่มถึงกับหลงลืมเวลา ไม่ไปพบเจ้านายยังจุดนัดพบ



          ฝ่ายกัปปะเมื่อดำเนินธุรกิจเสร็จสิ้นก็ไปรอลาหนุ่มยังจุดนัดพบ รออยู่นานไม่เห็นวี่แววของลาหนุ่มของตน จึงออกตามหา จึงพบว่าบาหนุ่มของตนกำลังติดสาวอยู่จึงออกปากชวนกลับบ้านแต่ลาหนุ่มไม่ยอมกลับแม้จะขู่ว่าจะลงปฏักที่หลัง บาหนุ่มก็ยังยืนกรานไม่กลับอบู่เช่นนั้น กัปปะหรือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรองดูแล้วจึงเห็นว่ามีวิธีเดียวที่จะดึงลาหนุ่มที่กำลังตกหลุมรักลาสาวกลับบ้านได้ คือออกกลลวงว่าจะจัดการตบแต่งให้ความรักสมหวัง แต่ตอนนี้ขอให้กลับบ้านก่อน

           แรกทีเดียวนั้นลาหนุ่มมิเคยเชื่อนายสักเท่าใดนัก แต่เมื่อเห็นนายตกปากรับคำเป็นมั่น จึงยอมจากสาวลากลับมา แต่พอมาถึงบ้านสองสามวันล่วงไปแล้ว ก็ไม่มีท่าว่านายจะทำตามวาจาที่ลั่นไว้ เจ้าลาหนุ่มจึงเอ่ยปากทวงสัญญา

           นายกัปปะได้บอกกับลาหนุ่มว่า เรืองที่พูดไว้นั้นเขาไม่ลืมหรอกแต่มีปัญหาอยู่เรื่องอาหาร เราะเขาสามารถหาอาหารให้ได้เฉพาะลาหนุ่มตัวเดียวและก็ให้อย่างคุ้มค่าแรงแล้ว

            เจ้าลาหนุ่มที่อยู่ในห้วงความรัก เมื่อได้ฟังก็ได้คิดว่าอาหารนี่นายของมันให้อยู่ทุกวันนั้นอิ่มพอดีท้องแล้ว การที่นายของมันบอกว่าเลี้ยงมันได้ตัวเดียวก็แสดงว่าหากลาสาวมาอยู่กับมัน มันต้องแบ่งอาหารของมันให้แน่ อาหารที่เคยได้จะน้อยลง ตัวมันคงไม่อิ่มท้อง คิดได้ดังนี้มันจึงล้มความตั้งใจที่จะมีคู่ไปทันที

" ตัดความโลภได้ ชีวิตจะมีสุข
ความทุกข์จะเบาบาง "




By นิทานชาดก

No comments:

Post a Comment