Thursday, November 15, 2012

พุทธศาสนา มองโลกในแง่ร้ายจริงหรือ ?

พุทธศาสนา มองโลกในแง่ร้ายจริงหรือ ?

          เคยมีความเห็นจากนักเทววิทยาชาวตะวันตกบางคนวิจารณ์คำสอนเรื่องทุกข์ในอริยสัจ ว่า พระพุทธศาสนาสอนให้มนุษย์ปฏิเสธโลกและสอนให้มองโลกในแง่ร้าย แต่สำหรับ เคลาด์ วิตไมเออร์ ผู้ซึ่งเคยศึกษาพุทธศาสนาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่านี้ ดังบทความที่เขาแสดงความเห็นไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งว่า

           " โดยความเป็นจริงแล้ว หากเรามาพิจารณากันให้ถ่องแท้ด้วยสัมมาทิฏฐิ เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความทุกข์นั้นเป็นปัญหาที่มีอยู่จริงในโลก แม้จะมีหลายคนพยายามที่จะปฏิเสธและไม่ยอมรับโดยปล่อยให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปตามรูปแบบแห่งโลกียวิสัย แต่หากพิจารณาให้ลึกซึ้ง ความทุกข์นั้นจะยังคงมีอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น อันเนื่องมาจากความเป็นอนิจจัง เว้นเสียแต่เมื่อเรามองเห็นสัจธรรมว่า สรรพสิ่งทั้งหลายมันเป็นเช่นนั้นเองแล้วเท่านั้น อุปาทานต่อสิ่งที่เราเคยหลงยึดติดอยู่ในโลกนี้จึงจะหมดไป เมื่ออุปาทานดับ ทุกข์ก็ดับ นี่คือคำสอนของพระพุทธองค์ตามแนวทางแห่งมัชฌิมาปฏิปทา "


            ที.เอฟ.เคลียร์ลี ผู้ศึกษาพุทธศาสนาจนเกิดความรู้ความเข้าใจในแก่นคำสอน ได้แสดงความคิดเห็นโต้แย้งความเชื่อเดิมที่มีชาสวตะวันตกบางคนวิจารณ์ว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาของคนเจ้าทุกข์มองโลกในแง่ร้าย ไว้ดังนี้

            " อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมทางความคิดของชาวตะวันตกที่แปลความในคำสอนทางพุทธศาสนาเกี่ยวกับ " ทุกข์ " ( ที่สอนไว้ในไตรลักษณ์ และอริยสัจ 4 ) แบบด่วนสรุปเอาว่า ชีวิตคือความทุกข์ ซึ่งตามความจริง หากได้ทำความเข้าใจให้กระจ่าง พุทธศาสนาสอนว่าสรรพสิ่ง ( ที่เป็นสังขตธรรม ) ทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ผู้เห็นธรรมข้อนี้แลเจริญตามรอยอริยมรรคย่อมพ้นทุกข์ "

            เคลียร์ลี แสดงข้อคิดเห็นเรื่องนี้ต่อไปว่า หากเราใช้ความคิดอย่างเป็นอิสระ ไม่ปล่อยให้ตนเองเป็นเพียงหุ่นยนต์ตกเป็นทาสของความเชื่อเดิมๆ ที่มีต่อธรรมชาติแล้ว เราจะบอกกับตัวเองได้ว่า พุทธศาสนาเชื่อว่า มนุษย์ทุกผู้ทุกนามมีความสามารถที่จะเอาชนะเหนือ ความเขลา ความขลาด และความรุนแรงได้ ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่นำเปรียบเทียบกับความทุกข์ และความรุนแรงได้ ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่นำไปเปรียบเทียบกับความทุกข์ นิพพานไม่ใช่ทางตันในโลกแห่งจิตวิญญาณ แต่เป็นที่พักพิงทางใจได้อย่างเป็นอิสระ เพราะนิพพานนั้นโดยแท้จริงแล้วก็คือ สภาวะแห่งความดับทุกข์ นั่นคือ หลุดพ้นจาก " ธรรมที่มัดไว้กับทุกข์ " ( สังโยชน์ ) เช่นโลภ โกรธ หลง สงสัย ลังเล ( วิจิกิจฉา ) ความเย่อหยิ่งถือตัว ( มานะ ) และความใจแคบไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ( ทิฏฐิ ) เป็นต้น พุทธศาสนาสอนให้เรา " อยู่ในโลกแต่ไม่ยึดติดกับโลก ผู้มีปัญญามองเห็นสัจธรรมว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ย่อมเบือหน่ายในทุกข์ ย่อมหาทางพ้นทุกข์ได้ตามแนวทางอริยมรรค "





By แก่นพุทธธรรม

No comments:

Post a Comment