Monday, September 29, 2014

ตีสองหน้า


ตีสองหน้า

        ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฌานาจารย์ม่าจู่เต้าอี้นั่งสมาธิภาวนา เกิดไอไม่หยุด จึงขากเสลดถ่มเสมหะใส่พระพุทธรูปตามสะดวกท่าน

        พระอุปัฏฐากที่นั่งอยู่ด้านข้างเกิดเห็นเข้า จึงถาม " อาจารย์ ถ่มเสมหะใส่พระพุทธรูปได้หรือ ? "

        ฌานาจารย์ม่าจู่หยุดไอทันที ย้อนถามพระอุปัฏฐากว่า " ในความว่างเปล่าทุกแห่งล้วนมีธรรมกายขององค์ยูไล เจ้าลองบอกอาตมาซิว่าจะให้ถ่มเสมหะไปที่ใด ? "

        คนทั่วไปกราบไหว้บูชาพระพุทธรูป แต่ไม่รู้จักพระพุทธอย่างแท้จริง ธรรมกายของพระพุทธอยู่ในความว่างเปล่าทุกหนแห่ง ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะบูชาเป็นเพียงรูปสลักไม้ รูปปั้นดิน หรือรูปหล่อสัมฤทธิ์ ! การที่อาจารย์ม่าจู่ ขากเสลดถ่มเสมหะใส่พระพุทธรูป มิได้หมายความว่าท่านยโสโอหังหรือหลงละเลิงลืมตน แต่เป็นเพราะท่านได้ตระหนักอย่างแท้จริงแล้วว่าธรรมกายของพระพุทธดำรงอยู่ทุกหนแห่ง



         โลกทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ทำดีเพียงเพื่อจะแสดงตัวให้ผู้อื่นเห็นหวังคำชมเชย หวังชื่อเสียง หวังสิ่งตอบแทน ทว่าลังหลังกลับทำชั่วสารพัด ไม่เว้นแม้กระทั่งเปิดบ่อนเปิดซ่อง เปรียบดังเช่นต่อหน้าพระพุทธรูปก็นอบน้อมกราบไหว้บูชา หวังความคุ้มครอง พอลับหลังก็ปล้นจี้ล่าสวาท หรือฆ่าคนอย่างเลือดเย็น กลายเป็นคนละคนไป พฤติกรรมตีสองหน้าเช่นนี้ ขอถามหน่อยเถิด เป็นพฤติกรรมของชาวพุทธกระนั้นรหรือ ?




By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment