Monday, September 29, 2014

ตาบอดตกสะพาน


ตาบอดตกสะพาน

         ครั้งหนึ่งมีชายตาบอดเดินข้ามสะพานไม้ที่น้ำใต้สะพานแห้งขอดแล้ว แต่ชายตาบอดผู้นั้นไม่ทราบ เขาจึงเดินข้ามสะพานอย่างระมัดระวังเต็มที่ เพราะกลัวว่าจะตกลงไปในคลอง ขณะที่เดินไปถึงกลางสะพาน เขาเกิดก้าวพลาด แต่เขาก็ยังเอามือจับราวสะพานไว้ได้และโหนตัวห้อยโตงเตงตะโกนให้คนช่วยเสียงหลง

          คนที่ผ่านมาเห็นเข้าจึงร้องบอกเขาว่า

          " ไม่ต้องกลัว น้ำในคลองแห้งหมดแล้ว แกรีบปล่อยมือเถอะ " 

          ชายตาบอดฟังแล้วก็ไม่เชื่อ ยังคงโหนต่องแต่งและร้องไห้อย่างน่าเวทนา แต่ในที่สุดเมื่อแขนของเขาล้า หมดกำลังโหนต่อไปไม่ไหว เขาก็ตกลงไปในคลอง พอเท้าเหยียบถูกดิน ชายตาบอดผู้นั้นก็ปิติยินดีมากพูดขึ้นว่า

          " พุทโธ่เอ๋ย ถ้ากูรู้ว่าข้างล่างเป็นดินเสียแต่แรก กูจะไปมัวโหนให้เหนื่อยทำไม ! "

บันทึกใน " อิ้งเสียลู่ "



มุมมองปรัชญา

          การที่คนตาบอดไม่ยอมปล่อยมือก็เพราะความกลัวและไม่ฟังเสียงของคนอื่น จึงต้องโหนต่องแต่งอยู่จนโหนต่อไปไม่ไหว แต่เนื่องจากเขาเป็นคนตาบอดมองไม่เห็นจึงเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้

          นิทานเรื่องนี้เป็นการเตือนพวกเราที่ตาไม่บอดว่า จะต้องเอาใจใส่สนใจการเปลี่ยนแปลงอยุ่ไม่ขาดของสภาพทางภววิสัยเพื่อที่ความคิดและการกระทำของเราจะได้สอดคล้องกับสภาพที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้ามัวยึดอยู่แต่แบบเก่าๆ ตายตัว ไม่ดูการเปลี่ยนแปลงแล้วก็เท่ากับหาความลำบากมาให้ตัวเอง





By ปรัชญาชีวิตใน " สุภาษิตจีน "

No comments:

Post a Comment