Thursday, November 20, 2014

ทุกเรื่องให้ดูสองด้าน


ทุกเรื่องให้ดูสองด้าน

         ทุกเรื่องล้วนมีสองด้าน ไม่ว่าจะเป็น " ดี " " ชั่ว " " ใช่ " " ไม่ใช่ " หรือจะเป็น " เลว " " ดี " " ถูก " " ผิด " "มี " " ไม่มี " ทั้งหมดล้วนมีสองด้าน

         ทว่าดูผิวเผินเหมือนมีสิองด้านที่ตรงกันข้ามกัน แต่ความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปหมดทุกเรื่อง บางเรื่องอาจจะดีทั้งสองด้าน และบางเรื่องก็อาจจะเลวทั้งสองด้าน หรือบางครั้งที่ " ใช่ " ยังมีที่ " ไม่ใช่ " รวมอยู่ หรือที่ " ไม่ใช่ " มี " ใช่ " รวมอยู่ด้วยเช่นกัน

         บางทีสองคนถกเถียงกัน ต่างคนต่างมีเหตุผลของตนเอง เพราะต่างมีจุดยืนของตนเอง ไม่ต้องพูดว่าใครถูกใครผิด ใครใช่ใครไม่ใช่ เช่นลูกๆ บอกว่า พ่อน่ารักที่สุด หรือว่าแม่น่ารักที่สุด ต่างถูกด้วยกันทั้งคู่ แต่ว่าไม่สมบูรณ์ฺเพราะที่ถูกควรจะพูดว่า พ่อแม่น่ารักทั้งคู่

         พุทธศาสนิกชนบอกว่าพระพุทธศาสนายิ่งใหญ่ที่สุด คริสต์ศาสนานิกชนบอกว่าศาสนาคริสต์ยิ่งใหญ่ที่สุด พูดถูกทั้งคู่ แต่ว่าภ้าพูดด้วยความเคารพฝ่ายตรงข้ามได้ เช่นพุทธศาสนิกชนควรบอกว่าศาสนาคริสต์ก็ยิ่งใหญ่เหมือนกัน ส่วนคริสต์ศาสนิกชนบอกว่าพระพุทธศาสนาก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน พูดอย่างนี้จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น บางครั้งความ " ถูกผิด " ขึ้นอยู่กับจุดยืนของแต่ละคน หรือเพราะว่าเบื้องหลังทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างกัน ต่างฝ่ายต่างยึดมั่นว่าของตนถูก จึงหามาตรฐานได้ยาก



         ชาวตะวันออกเห็นชาวตะวันตกแต่งกายเปิดหน้าเปลือยหลังในที่สาธารณะมองว่าเป็นภาพอุบาทว์ ไม่สุภาพ ส่วนชาวตะวันตกเห็นชาวตะวันออกเปลือยแขนเปิดอกในที่ชุมนุมชนมองว่าไม่มีมารยาทสังคม

         ชาวตะวันออกเห็นชาวตะวันตกทำอะไรก็ต้องเข้าแถว มองว่าเป็นการเสียเวลา ไร้ประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนชาวตะวันตกเห็นชาวตะวันออกทำอะไรก็ยื้อแย่งแซงหน้ากัน เป็นชนชาติที่ยิ่งเหยิงไร้กฎระเบียบ

          ชาวจีนมองชาวญี่ปุ่นว่าเวลาจากกัน ต่างฝ่ายต่างโค้งคำนับกัน โค้งแล้วโค้งอีก ก้าวไม่พ้นประตูสักที ส่วนชาวญี่ปุ่นมองชาวจีนว่า เดินสาวเท้าชิดหน้า หยิ่งยโสไม่มีใดปาน เห็นว่าเป็นชนชาติที่ไม่นบนอบ

          เรื่องการแต่งงาน ชาวจีนมองชาวตะวันตกที่แต่งแล้วหย่า หย่าแล้วแต่งอดีตสามีคนที่หนึ่ง อดีตสามีคนที่สอง อดีตสามีคนที่หนึ่ง อดีตภรรยาคนที่ีสอง หรืออาจจะเป็น สาม สี่ ห้า ช่างไม่ต่างอะไรกับคนเถื่อน ส่วนชาวตะวันตกมองชาวจีนว่ามีเมียน้อยมีเมียมาก ลูกหลานเต็มบ้านอยู่ร่วมกันสามรุ่น ห้ารุ่น ไม่เข้าใจว่าอยู่กันได้ยังไง

          ชาวจีนเวลาพบกันมักทักว่า " ทานข้าวแล้วหรือยัง " ชาวตะวันตกฟังแล้วรู้สึกประหลาด ชาวตะวันตกเวลาพบกันจะสวมกอดหอมแก้ม ชาวจีนรู้สึกว่าอย่างนี้รับได้ยาก

           ดังนั้น พระพุทธศาสนาสอนเรื่อง " มัชฌิมา " เดินทางสายกลาง ทุกเรื่องให้ดูที่จุดประสงค์ ดูการกระทำของเขา เพราะทุกเรื่องมีที่มาและที่ไป มีเหตุและผลสองด้าน ต้องดูที่เหตุปัจจัยของทางสายกลางเท่านั้น จึงจะตัดสินใจอย่างยุติธรรม คนที่มองอะไรไม่มองสองด้าน ชอบ " ฟังความข้างเดียว " เป็นการไม่รู้จักว่าด้วยหลักเหตุและผล ต้องเอาเหตุและผลขึ้นมาวางบนโต๊ะพูดกัน จึงจะได้ข้อยุติที่เที่ยงธรรม จึงจะมองเห็นว่าความแท้จริงมันเ้ป็นสองด้าน หรือว่าหลายด้าน หรืออาจจะมีเหตุปัจจัยภายนอกอย่างอื่นอยู่ด้วย

           แล้วจะทำอย่างไรจึงจะมองออก เรื่องนี้ต้องอาศัยสติปัญญาเท่านั้นจึงจะเข้าใจ





By เซนส่องทาง

No comments:

Post a Comment