Wednesday, December 26, 2012

ดาบสองคม

โลภไม่รู้จักจบจักสิ้น

          ชายคนหนึ่งเดินทางไปหาขุมทรัพย์ในทะเลทราย ขุมทรัพย์ยังหาไม่เจอแต่น้ำกับอาหารที่เอาไป กินหมดเสียแล้ว เขาเดินต่อไปไม่ไหว ได้แต่นอนพะงาบๆ อยู่บนทะเลทราย รอคอยมัจจุราชมารับตัวไป วินาทีนั้นเองชายผู้ตามล่าหาขุมทรัพย์ก็คิดถึงพระผู้เป็นเจ้า เขาอธิษฐานว่า " พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดช่วยลูกที่น่าสงสารคนนี้ด้วยเถิด "

           สิ้นคำอธิษฐาน พระเจ้าก็ปรากฏกายขึ้น พระเจ้าถามว่า " ตอนนี้เจ้าอยากได้อะไร "

           ชายผู้ตามหาขุมทรัพย์ตอบว่า " ลูกอยากได้อาหารกับน้ำนิดนึงก็ยังดี "

           พระผู้เป็นเจ้าเสกอาหารกับน้ำให้เขาตามคำขอ

           ชายผู้ตามล่าหาขุมทรัพย์กินอิ่มมีเรี่ยวมีแรงดีแล้ว แทนที่เขาจะไปจากทะเลทราย เขากลับเดินสำรวจขุมทรัพย์ลึกเข้าไปอีก ไม่นานนัก เขาก็พบขุมทรัพย์จริงๆ เขาใช้ถุงใส่เพชรนิลจินดาจนเต็มปรี่ หนักอึ้งแทบเดินไม่ไหว แต่เขายังกัดฟันแบกถุงสมบัติ เดินฝ่าความร้อนระอุของทะเลทรายต่อไปอย่างช้าๆ เขาอ่อนเปลี้ยแทบจะขยับขาไม่ไหวแต่เขาก็ไม่ยอมทิ้งสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว เขาคลานกระดึบๆ อยู่ครู่ใหญ่สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติ นอนรอความตายอู่บนทะเลทรายอีกรอบหนึ่ง



           ก่อนตาย พระผู้เป็นเจ้าปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ถามว่า " ตอนนี้ เจ้าอยากได้อะไร "

           ชายผู้ตามล่าสมบัติตอบว่า " น้ำกับอาหาร ยิ่งมากยิ่งดี "

แง่คิด

           ความโลภเป็นดาบสองคม

           พระเจ้าในนิทานเซนเรื่องนี้ช่างเมตตาเสียเหลือเกิน ให้โอกาสแก่ชายผู้ตามล่าสมบัติถึง 2 ครั้ง 2 หนแบบนี้นะเหรอ คำตอบคือ ยากมาก ส่วนใหญ่ชีวิตมีโอกาสแค่ครั้งเดียว ดังนั้น ถ้าหากเราไม่กุมโอกาสนี้ให้ดี ชีวิตก็จะสูญเสียไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมาอีก

           พระเจ้ามีจริงหรือไม่ เรื่องนี้เราอย่าเสียเวลาถกเถียงกันเลยประเด็นที่ควรสนใจในนิทานเซนเรื่องนี้ก็คือเมื่อคนเราตกอยู่ในสภาพใกล้ตาย สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง มันคืออะไรกันแน่ เงินทอง ชื่อเสียง ลาภยศ วัตถุ ? ดูเหมือนจะไม่ใช่ สิ่งที่เขาต้องการก็คืออาหารกับน้ำที่จะมาประทังและยืดชีวิตของเขาให้อยู่รอดต่อไปแม้อีกสักวินาทีหนึ่งก็ยังดี

           ในนาทีวิกฤตนั้น ชีวิตสำคัญที่สุด เอาสมบัติทั้งโลกมาแลกก็ไม่ยอม

           แต่ครั้นได้กินข้าวกินน้ำจนชีวิตพ้นวิกฤต เข้าสู่สภาวะปกติแล้วความโลภก็เข้าครอบงำจิตใจอีกตามเคย สิ่งที่ชายผู้ตามล่าหาสมบัติต้องการก็คือ อาหารกับน้ำปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ที่ขอเช่นนั้น จุดมุ่งหมายก็มิได้เพราะอยากกินข้าวกินน้ำ แต่เพื่อที่เขาจะได้ใช้อาหารกับน้ำนั้นเป็นทุนรอนในการออกตามล่าหาสมบัติสืบต่อไป และถ้าเขาคิดต่อไป เขาตามล่าหสมบัติเพื่ออะไร ก็เพื่อที่เขาจะได้อยู่ดีกินดีได้อยู่คฤหาสน์หรูๆ กินอาหารเลิศรส... ชีวิตก็เท่านี้เอง

           มีคนพูดว่า อาหารกินเต็มที่ก็แค่เต็มกระเพาะ ที่อยู่ นอนกว้างแค่ไหนก็แค่สองตารางวา

           แต่กับอาหารและที่อยู่ซึ่งชีวิตเสพย์เต็มที่ก็ได้แค้นิดเดียวนี้ มนุษย์กลับทุ่มชีวิตทั้งชีวิตให้กับสิ่งนี้ เราใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปไล่ล่าความโลภที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด  

            เกิดเป็นคน น้อยคนนักที่จะไม่โลภ ดูเหมือนความโลภจะเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ บางคนพูดว่า ความโลภเป็นทูตสวรรค์ มนุษย์คนไหนไม่มีความโลภ มนุษย์คนนั้นก็ใกล้มอดม้วย แต่บางคนก็พูดว่าความโลภเป็นมารร้าย ความโลภเกิดขึ้นเมื่อไร มนุษย์ก็ทำชั่วได้สารพัด

            ความโลภเกิดจากตัวมนุษย์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์เราก็ย่อมต้องควบคุมความโลภไว้ได้

            ความโลภเปรียบประดุจดังดาบสองคม ถ้าควบคุมได้ดี มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อเรา มันจะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการผลักดันเราไปสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ แต่ถ้าควบคุมได้ไม่ดี ชีวิตของเรา ความสุขของเราก็มอดไหม้ไปกับมัน





By สุภาณี  ปิยพสุนทรา ( สว่าง อย่าง เซน )

No comments:

Post a Comment