Friday, October 12, 2012

สาวงาม

สาวงามที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของจีน

          ไซซี ( ซีซือ ) งามจนมัจฉาจมวารี


         
           เมื่อไซซีทำกลศึก ให้อ๋องที่เป็นศัตรูคู่แค้นของแผ่นดินบ้านเกิดเธอหลงสเน่ห์นั้น เธอไปทำเป็นนั่งซักผ้าอยู่ริมธารตรงที่อ๋ององค์นั้นจะผ่านมา และเมื่อท่านอ๋องเสด็จขี่ม้าผ่านมาเห็นความงามของเธอ ก็หลงใหลสเน่ห์ของเธอสมดังอุบาย พอเข้าวังไปได้แล้วเธอก็ไปดำเนินกลต่อจนอ๋ององค์นั้นเสียบ้านเสียเมืองไปเลย เล่ากันว่าเมื่อไซซีนั่งซักผ้า ณ ริมธารนั้น ปลาที่ว่ายน้ำมาเห็นเธอก็ตกตะลึง ลืมว่ายน้ำจมหายไปเลย จึงเปรียบเธอว่า " งามจนมัจฉาจมวารี " ศิลปินจีนจึงมักวาดให้เป็นรูปหญิงงามกำลังซักผ้าริมลำธาร


            หวังเจาจวิน งามจนปักษีตกนภา



            เกิดเมื่อประมาณ 33 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยราชวงฮั่นตะวันตก ( พ.ศ. 341 - 551 ) ในรัชสมัยฮั่นหยวนตี้ ทางเหนือและทางใต้ทำสงครามกันไม่หยุดหย่อนชายแดนไม่มีความสงบสุข เพื่อที่จะทำให้ชาวซงหนูทางชายแดนด้านเหนือสงบลง ฮั่นหยวนตี้จึงได้พระราชทานนางสนมให้ สมรสกับข่านฮูหานเสีย เพื่อที่จะสร้างสันพันธ์อันดีระหว่างสองเมือง นางสนมคนหนึ่งนามว่า หวังเฉียน ฉายา เจาจวิน มีรูปโฉมที่งดงามและประกอบด้วยความรู้ ยินดีเสียสละเพื่อชาติที่จะไปแต่งงานยังเผ่าซงหนู

             ในขณะที่ หวังเจาจวินกำลังแสดงความเคารพต่อฮั่นหยวนตี้อยู่นั้น พระองค์ก็ได้ทรงเห็นใบหน้าอันงดงามของหวังเจาจวิน รวมทั้งกิริยามารยาทก็สุภาพเรียบร้อย นับว่าเป็นสาวงามที่ในราชสำนักฮั่นคนหนึ่งเลยทีเดียว

             เมื่อฮั่นหยวนตี้เสด็จกลับวังแล้ว ทรงพระพิโรธเป็นอย่างยิ่งมีบัญชาให้หัวหน้าขันทีไปนำเอาาพวาดของหวังเจาจวินมาให้ทอดพระเนตร ในรูปภาพนั้นแม้จะมีส่วนคล้ายคลึงอยู่บ้าง แต่ไม่มีความงดงามเหมือนหวังเจาจวินัวจริงโดยสิ้นเชิง

             ตามประเพณีของจีน บรรดานางสนมที่ถูกคัดเลือกส่งเข้ามาในวัง โดยปรกติจะไม่ได้พบองค์ฮ่องเต้โดยตรง แต่ทางราชสำนักจะจัดให้นางสนมเหล่านั้นเป็นแบบให้จิตรกรวาดภาพ และส่งภาพเหล่านั้นไปให้ฮ่องเต้เลือก หากเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย ก็จะได้มีโอกาสรับใช้องค์ฮ่องเต้

             หนึ่งในจิตรกรที่วาดภาพเหล่านางสนมนั้น มีอยู่คนนามว่า " เหมาเหยียนโซ่ว " เวลาที่วาดภาพนางสนมทั้งหลายนั้น หากนางสนมคนใดให้สินบน ก็จะวาดให้สวยงาม หวังเจาจวินมิคิดที่จะติดสินบน ดังนั้นเหมาเหยียนโซ่วจึงวาดภาพให้นางงดงามกว่าความเป็นจริง เมื่อฮั่นหยวนตี้ประจักษ์ในความจริงเช่นนี้ จึงทรงพิโรธอย่างมาก รับสั่งให้ประหารชีวิตเหมาเหยียนโซ่วทันที

              หวังเจาจวินเดินทางออกไปนอกด่านในวันที่ท้องฟ้าสดใส ระหว่างทางเสียงม้าและเสียงนกร้องทำให้นางเศร้าโศก ยากที่จะทำใจได้ นางจึงได้ดีดพิณขึ้นเป็นทำนองที่แสดงความโศกเศร้าจากการพรัดพราก บรรดานกที่กำลังจะบินไปทางใต้ ได้ยินเสียงพิณอันไพเราะเช่นนี้ จึงมองลงไป เห็นหญิงงามอยู่บนหลังม้า ก็ตกตะลึงในความงาม ลืมที่จะขยับปีก จึงร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน นับแต่นั้นเป็นต้นมา หวังเจาจวินจึงได้รับขนานนามว่า " ความงามที่ทำให้ฝูงนก ต้องร่วงหล่นจากท้องฟ้า ( ปักษีตกนภา ) " นั่นเอง

              หวังเจาจวิน้องจากบ้านเกิดไปไกล อาศัยอยู่ในดินแดนของเผ่าซงหนูเป็นเวลานาน นางได้เกลี้ยกล่อมฮูหานเสียอย่าให้ทำสงคราม ทั้งยังเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวฮั่นให้แก่ชาวซงหนูอีกด้วย นับจากนั้นเป็นต้นมา เผ่าซงหนูและราชวงศ์ฮั่นต่างก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและไม่มีสงครามเป็นเวลายาวนานหกสิบปี

              เตียวเสี้ยน ( เตียวฉาน ) งามจนจันทร์หลบโฉมสุดา



              ในเรื่องสามก๊ก กลอุบายสาวงาม ศิลปินมักวาดภาพจุดธูปเทียนบูชาพระจันท์ เชื่อว่าเกิดใน ค.ศ. 169 ซึ่งเป็นยุคสามก๊ก และปรากฏตัวในนิยายเรื่องสามก๊กด้วย

               เตียวเสี้ยนเป็เด็กที่อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ในพระเจ้าเหี้ยนเต้เก็บมาเลี้ยงไว้ มีรูปโฉมงดงามเป็นอย่างยิ่ง และมีความสามารถในการฟ้อนรำเป็นเลิศ เมื่ออ้องอุ้นมหาอำมาตย์ตงฉินผู้ซื่อต่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของเตียวเสี้ยน วางแผนจะกำจัดกังฉินเสี้ยนหนามแผ่นดินคือตั๋งโต๊ะผู้กำเริบตั้งตัวเองเป็นมหาอุปราช โดยจะใช้เสน่ห์ของเตียวเสี้ยนยั่วให้ตั๋งโต๊ะผิดใจกับลิโป้ อัศวินคู่ใจตั๋งโต๊ะนั้น

                อ้องอุ้นแกล้งเชิญตั๋งโต๊ะและลิโป้มากินเลี้ยงแล้วก็บอกว่าตนมีลูกสาวบุญธรรมคนหนึ่งที่หน้าตาสวยงามมาก ลือกันว่าสวยกว่าจัทรเทวีฉางเอ๋อ จนจันทร์เจ้าอาย ทั้ง 2 กังฉินนั่นไม่รู้กลก็ตื่นเต้นอยากเห็น อ้องอุ้นก็แกล้งถ่วงเวลาไว้ ที่จริงอ้องอุ้นรู้ว่าคืนนั้นมีจะจันทรุปราคา พอใกล้เวลาจันทรคราสก็ให้เชิญเตียวเสี้ยนออกมา ทันใดนั้นพระจันทร์ก็สิ้นแสงหมดรัศมี ตั๋งโต้ะและลิโป้ตื่นเต้นมากกว่าเตียวเสี้ยนเป็นหญิงงามเย้ยจันทร์จริงๆ เตียวเสี้ยนก็จุดธูปกระทำการคารวะต่อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์อัญเชิญให้ออกมา จันทร์ก็สว่างดังเดิม ต่อจากนั้นทั้งสองก็หลงใหลเสน่ห์ของเตียวเสี้ยนจนโงหัวไม่ขึ้นถึงกับฆ่าฟันกันเองตามกลของอ้องอุ้นที่วางไว้

               เตียวเสี้ยนแตกต่างจากสาวงามทั้ง 3 คน เนื่องจากไม่ได้รับการยืนยันว่ามีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพียงหญิงรับใช้ของตั๋งโต๊ะที่มีความสัมพันธ์กับลิโป้ ซึ่งเป็นขุนศึกของตั๋งโต๊ะเท่านั้น

               หยางกุ้ยเฟย งามจนมวลผกาละอายนาง



               เป็นชายาของฮ่องเต้ถังเสวียนจง ในราชวงศ์ถัง ศิลปินมักชอบวาดภาพเป็นสองรูป คือตอนกำลังเมาเหล้าเริงระบำ หรือตอนกำลังอาบน้ำร้อน เธอได้ชื่อว่ามีรูปโฉมงดงามมากจนกระทั่งเมื่อตามเสด็จพระเจ้าถึงเสวียนจงฮ่องเต้ประภาสสวนหลวง ดอกไม้ต่างๆ ก็หุบกลีบ ไม่กล้าแย้มบานประชันความงามกับเธอเลย จึงได้สมญาว่า " งามจนมวลผกาละอายนาง " 

               จักรพรรดิซวนจ่งลุ่มหลงในความงามของหยางกุยเฟย จนไม่สนใจในการปกครองอาณาประชาราษฎ์ บริหารราชการแผ่นดิน จนประเทศจีนได้รับการคุกคามจากศัตรูภายนอก และบรรดาขุนนางต่างคุกคามฮ่องเต้ ให้ประหารหยางกุ้ยเฟยโดยโทษไปที่หยางกุ้ยเฟย ที่เป็นเหตุให้ฮ่องเต้บริหารงานผิดพลาด ไม่เอาใจใส่ด้วยเหตุนี้ ด้วยเหตุนี้หยางกุ้ยเฟยจึงแขวนคอตายเพื่อประเทศและฮ่องเต้ชายอันเป็นที่รัก

                เรื่องของสนมหยางจบเศร้ากว่าคนอื่นๆ ที่จริงนางงามคนอื่นอีก 3 คน ก็ใช่ว่าจะมีความสุขทุกคนต้องสละความงามของตนเพื่อแลกกับผลทางการเมืองทั้งนั้น แต่ก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรสตรี สละตนเพื่อแผ่นดิน แต่หยางกุ้ยเฟยได้รับการประณามว่า ความงามของเธอก่อผลสะเทือนทางการเมืองจนพระเจ้าถังเสวียนจงต้องสูญราชบัลลังก์ แพ้ข้าศึก และมติมหาชนประณามเธอ จนขุนทหารราชวงศ์ถังบีบบังคับให้เธอต้องผูกคอตาย เพราะหาว่าเธอเป็นต้นเหตุความพินาศของบ้านเมือง





By OKnation

             

No comments:

Post a Comment