วันหนึ่ง ท่านเหวินเอี่ยนถามศิษย์ว่า " พวกเจ้าคิดว่า วันดีคือวันแบบไหน การดูฤกษ์ดูยามดี เขาดูกันอย่างไร "
เหล่าศิษย์ต่างให้คำตอบต่างๆ นานา ลึกซึ้งซ่อนเงื่อน น่าสนใจไม่น้อย แต่ท่านเหวินเอี่ยนกลับตอบง่ายๆ ว่า " ฤดูใบไม้ผลิดอกไม้เบ่งบาน ฤดูใบไม้ร่วงดวงจันทร์แจ่มจรัส ฤดูลมพัดเย็นสบาย ฤดูหนาวหิมะโปรยปราย หากใจไร้กังวล วันไหนๆ ก็ล้วนเป็นวันดี "
แง่คิด
วันดีๆ ในชีวิต
การดูฤกษ์ดูยาม เลือกเฟ้นวันดีจัดงานมงคล หรืองานใหญ่ต่างๆ เป็นประเพณีนิยมมาแต่โบราณ วิชาโหราศาสตร์ หมอดู ฮวงจุ้ย ฯลฯ อาจเป็นสถิติที่มีความแม่นยำน่าเชื่อถืออยู่บ้าง แต่หากถามผู้มีปัญญาว่าฤกษ์ดีคือฤกษ์แบบไหน ท่านจะตอบว่า ฤกษ์ดีคืฤกษ์สะดวก หากใจไร้กังวล วันไหนๆ ก็ล้วนเป็นวันดี
ฤดูฝน เราบ่นว่าฝนตกเฉอะแฉะทั้งวัน ไปไหนมาไหนไม่สะดวก ฤดูร้อน เราบ่นว่าแดดรอนเปรี้ยงๆ ไม่อยากออกจากบ้านไปประกอบธุระใดๆ
การแปรเปลี่ยนของฤดูกาลเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่มันก็จะไม่เปลี่ยนไปตามเจตจำนงของเรา ดังนั้น เมื่อเผชิญกับกฏธรรมชาติซึ่งเป็นสัจจะสัมบูรณ์ เราควรจะใช้ท่าทีที่ชื่นชมหรือตำหนิติเตียนดีเล่า
ผู้ชาญฉลาดจะใช้วิธี เรียนรู้ ชื่นชมและใช้ประโยชน์จากมัน
ชีวิตของคนเราก็เหมือนฤดูกาลที่แปรผัน แต่ละช่วงแต่ละตอนล้วนมีวิถีและรูปลักษณ์ของตัวเอง ชีวิตไม่สามารถเป็นฤดูใบไม้ดีผลิได้ตลอดเวลา บางครั้งก็เป็นฤดูร้อน บางครั้งก็เป็นฤดูฝน ฤดูหนาว
ชั่วชีวิตของคนเรา เราต้องพบกับปัญหาโน่นๆ นี่ๆ อยู่เสมองานการไม่ราบรื่นบ้างล่ะ ลูกเต้าไม่เชื่อฟังบ้างล่ะ สินค้าขึ้นราคา ของแพงรายได้น้อย ฯลฯ ถ้าเราเอาปัญหาทั้งหมดนี้มาใส่ไว้ในใจตลอดเวลา จิตใจของเราก็กลัดกลุ้มเหมือนถูกเมฆดำปกคลุมเอาไว้ ชีวิตคนเรานั้นเหมือนกราฟที่ขึ้นๆ ลงๆ มีสูงมีค่ำ ไม่ใช่ว่าจะย่ำแย่ตลอดไป ดีตลอดไป แต่มีโชคดี - โชคร้าย เดี๋ยวบุญมา เดี๋ยวบุญไป เพราะฉะนั้น จงทำตัวสบายๆ ปล่อยให้ดวงจิตของตัวเองได้พักผ่อนบ้างแล้วเราจะพบว่าโลกเมตตาเราเหลือเกิน โลกได้ประทานวันดีๆ แก่ชีวิตของเราแทบทุกวัน แม้แต่วันที่โชคร้ายที่สุด เราก็ยังค้นพบว่าโชคดีที่ยังมีลมหายใจ
By สุภาพร ปิยพสุนทรา ( สว่าง อย่าง เซน )
No comments:
Post a Comment