วิญญาณเป็นอัตตาหรือไม่
โปรดสังเกตุว่า พุทธศาสนานิกายเถรวาทถือว่า มโนทวาร เป็นสมผัสที่หก นอกเหนือไปจากอายตนะภายในทั้งห้าที่ทำหน้าที่รับภาพ เสียง กลิ่น รส และ สัมผัสต่ออายตนะภายนอก สัมผัสที่หกทำหน้าที่รับรู้จากสิ่งที่เรียกว่า ธรรมารมณ์ โดยผ่านทางมโนทวาร มโนทวารนี้เองที่ทำให้วิญญาณรู้จักตัวเองและรู็จักเจตสิกของตัวเอง หากปราศจากมโนทวาร มโนวิญญาณหารู้จักตนเองได้ไม่ เช่นเดียวกันหากไม่มีจักขุทวารย่อมไม่มีจักขุวิญญาณ โดยทางมโนทวารทำให้วิญญาณรู้จักตัวเองในฐานะที่เป็นสิ่งที่ถูกรู้ แต่มิใช่เป็นผู้รู้ ( ดังในความเชื่อของปรัชญาอุปนิษัท ) ดังนั้นจึงนับได้ว่า วิญญาณโดยธรรมชาติไม่มีตัวตน เพราะสิ่งที่ทำหน้าที่รู้ ย่อมมิใช่สิ่งที่ถือว่ารู้โดยปริยายวิญญาณเพียงแต่รู้ในสิ่งถูกรู้ได้ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เมื่อเราเพ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งในขณะปัจจุบัน เราไม่สามารถที่จะเฝ้าสังเกตการเกิดของวิญญาณได้ในเวลาเดียวกัน เพราะวิญญาณมิใช่เป็นผู้รู้และเป็นสิ่งถูกรู้ได้ในขณะเดียวกัน
" ดาบเล่มเดีวกันไม่สามารถที่จะฟันดาบเล่มเดิมได้ ขวานเล่มเดิมก็ไม่สามารถฟันขวานเล่มนั้นได้ ดังนั้นวิญญาณย่อมไม่สามารถรู้ตัวเองได้ในเวลาเดียวกันกับที่กำลังทำหน้าที่รับรู้ "
เป็นที่น่าสังเกตว่า ปรัชญาวิชญาณวาทในนิกายมหายานกลับมองคนละมุมกับพุทธเถรวาท โดยเชื่อว่า
" วิญญาณทุกชนิดและธรรมารมณ์ทุกอย่างเป็นอัตตาปัญญาย่อมให้ความสว่างกับตัวเอง ( สวายัมประภาส ) "
มหายานนิกายวิชญาณวาทยกตัวอย่างให้เห็นว่า
" ตะเกียงย่อมส่องสว่างให้กับสิ่งที่อยู่รอบๆ และให้กับตัวตะเกียงเองด้วยในเวลาเดียวกัน ดังนั้น วิญญาณย่อมเป็นได้ทั้งผู้รู้และผู้ถูกรู้ "
อย่างไรก็ตาม มหายานฝ่ายมาธยมิกไม่เห็นด้วยกับฝ่ายวิชญาณวาท ชาวมาธมิกกล่าวว่า วิญญาณนั้นโดยเนื้อแท้เป็นสุญญตา ไม่รู้จักตนเอง ไม่เป็นอนัตตา
" ดาบแม้จะคมสักเท่าใดก็ตามย่อมไม่สามารถใช้ฟันตัวเองได้ ปลายนิ้วย่อมไม่สามารถแตะปลายนิ้วเดิมได้ ฉันใดฉันนั้น "
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ปรัชญาวิชญาณวาทเชื่อในอัตตาคล้ายกับปรัชญาอุปนิษัท ขณะที่ฝ่ายมาธยมิกของมหายานเชื่อเช่นเดียวกับฝ่ายเถรวาท ดังนี้เป็นต้น
By แก่นพุทธธรรม
No comments:
Post a Comment