แล้วแต่วาสนา
ฌานาจารย์ฝาเหยียนศึกษาธรรมะจากพระอาจารย์ชิ่งฮุ่ยเป็นเวลานาน ยังไม่บรรลุธรรม จึงกราบลาพระอาจารย์ ออกพเนจรภิกขาจารไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
มาวันหนึ่ง ท่านผ่านอารามตี้จั้งย่วน หลวงจีนจือเค่อซือ ( เข้าใจอาคันตุกะ ) ผู้มีหน้าที่ต้อนรับอาคันตุกะในอาราม เห็นท่านก็ถามว่า " ฌานาจารย์ท่านนี้จะไปยังที่ใด ? "
ฝาเยี่ยนตอบว่า " ไม่มีจุดหมาย เพียงพเนจรไปทั่วทุกสารทิศ "
หลวงจีนจือเค่อซือถามอีกว่า " ฌานาจารย์ที่ธุดงค์แสวงบุญเช่นท่าน มีความรู้สึกอย่างไรต่อชีวิตพเนจร ? "
ฝาเยี่ยนตอบว่า " พเนจรไปตามวาสนา "
หลวงจีนจือเค่อซือได้ฟังดังนั้น ก็พูดด้วยเสียงชื่นชมว่า " โอ้ ! คำว่า ' พเนจรไปตามวาสนา ' ของท่านนี้ ช่างสะท้อนความอิสระเสรีได้ดียิ่ง "
ชีวิตของผู้เข้าถือฌาน เฉกเช่นปุยเมฆบนท้องฟ้า กระแสน้ำในท้องสมุทร มีอิสรเสรีดังใจ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ไร้ข้อผูกมัด ทุกสิ่งเป็นไปตามวาสนา !
ทว่า มนุษย์ทุกวันนี้ล้วนถูกพันธนาการด้วยอำนาจ เกียรติยศ เงินตรา และความปราถนาทางเพศ การกล่าวถึงวาสนา อิสรเสรี และความเป็๋นตัวของตัวเองที่แท้จริง ดูเหมือนจะเป็นความฟุ่มเฟือยที่เกินจำเป็นยิ่ง !
By เซน : วิถีแห่งความสุขที่แท้จริง
No comments:
Post a Comment