Friday, March 08, 2013

เมืองไทย " เมืองยิ้ม " ( ตอนที่ ๒๓ )

เมืองไทย " เมืองยิ้ม " ( ตอนที่ ๒๓ )
มวยไทย

         ศิลปะการป้องกันตัวอันเก่าแก่ของไทยก็คือ มวยไทยที่มีชื่อเสียงนั่นเอง มวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัว ที่เริ่มพัฒนาขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุทธยา ความจริงแล้วมวยไทยจัดว่าเป็นทั้งกีฬาอาวุธป้องกันตัวด้วย นักมวยได้รับอนุญาตให้ใช้อวัยวะ เกือบทุกส่วนของร่างกาย อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อห้ามอื่นๆ เป็นต้นว่า ห้ามกัด ห้ามถ่มน้ำลายใส่กัน หรือกอดปล้ำก็ห้าม นักมวยอาจจะต่อสู้กันโดย ต่อย เตะ ผลัก และใช้เท้าเปล่า ขา หัวเข่า ข้อศอก ไหล่และหมัดเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ การเตะอย่างแรงที่ก้านคอ ศอกอัดไปที่ตา หรือตีเข่าทีท้องน้อยก็อาจจะส่งคู่ต่อสู้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นได้ทันที

          แต่น่าอนาถที่ว่ามีอัตราการเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บทางร่างกายสูง จึงได้มีการออกกฏใหม่ขึ้น โดยยึดเอากฏระเบียบสากลเป็นหลักเพื่อให้มวยไทยได้ปฏิบัติตามนั่นก็คือ การแข่งขันในแต่ละคู่กำหนดให้มีแค่ ๕ ยก แต่ละยกให้ใช้เวลาเพียง ๓ นาที และในระหว่างยกให้มีการพักได้ ๒ นาทีการปฏิบัติตามประเพณีเรียกว่า " การไหว้ครู " พิธีนี้จะทำโดยการแสดงท่าร่ายรำและการเคลื่อนไหวของร่างกายไปพร้อมกับเสียงดนตรีข้างเวที ได้แก่ปี่และฉิ่งเป็นองค์ประกอบ



          ประวัติมวยไทยได้รับการถูกเปิดเผยก็เมื่อตอนเสียกรุงศรีอยุทธยา ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อเชลยคนไทยจำนวนหลายพันคนถูกต้อนไปยังเมืองหลวงของพม่า อยู่มาวันหนึ่งตัวแทนฝ่ายไทยได้แก่ นายขนมต้มไม่ปรากฏถิ่นกำเนิดอันแน่นอน นายขนมต้มได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงคนแรกของคนไทย เพราะว่าเขาคนเดียวสามารถเอาชนะนักมวยพม่าได้ถึง ๑๐ คน กษัตริย์พม่าถึงกับทรงเปล่งพระสุรเสียงอันดังว่า " คนไทยนี้ถึงแม้ว่าตัวเล็ก แต่ก็เป็นนักสู้ที่เก่งกาจ นี่ถ้าหากว่ามีผู้นำที่ดี เราคงเอาชนะกรุงศรีอยุทธาไม่ได้เป็นแน่ "

          ความจริงแล้ว มวยนี้เคยเป็นกีฬาของกษัตริย์มาก่อน และกษัตริย์ไทยหลายพระองค์ก็ทรงเป็นนักมวยที่ทรงพระปรีชาสามารถ ตัวอย่างเช่น สมเด็จพระนเรศวร พระเจ้าเสือและพระเจ้าตากสิน พระเจ้าเสือเองก็ทรงกิตติศัพท์ว่ามีความกล้าหาญ และเด็ดเดี่ยวมาก แทบจะกล่าวได้ว่าพระองค์ก็ทรงเป็นนักมวยมืออาชีพผู้หนึ่งทีเดียว บางครั้งพระองค์ก็ทรงปลอมเป็นสามัญชนและเสด็จไปแข่งขันชกมวยตามงานเทศกาลต่างๆ กล่าวกันว่า คู่มือนักมวยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็รวบรวมโดยพระเจ้าเสือนั่นเอง

          เป็นเรื่องทีแน่นอนว่า การที่จะเป็นนักมวยระดับมืออาชีพได้นั้น บุคคลนั้นจะต้องใช้เวลาหลายปีในค่ายฝึกมวย และโดยปกติการฝึกนี้จะเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เพราะว่าการชกมวยเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นระยะเวลานาน และยากลำบากกับครูฝึกมวย ปัจจุบันนี้มวยไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ชาวตะวันตก ดังนั้น จึงมีการเพิ่มจำนวนคู่ชกให้มากขึ้น เพื่อนักท่องเที่ยวในหลายๆ แห่ง ในการแข่งขันนี้ บางทีก็เป็นการชกกันจริงๆ และบางทีก็อาจจะเป็นเพียงเพื่อแสดงให้คนดูเท่านั้นก็มี แม้กระนั้นการชกจริงก็จัดให้มีขึ้นทุกวันที่เวทีมวยใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ และในสนามมวยต่างจังหวัดปัจจุบันนี้ อาจจะมีนักมวยมืออาชีพหลายพันคนแล้วก็ได้ในเมืองไทย และหลายคนก็ยึดเป็นอาชีพแต่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น บางคนก็ยึดอาชีพเป็นครูฝึกมวย ในขณะที่บางคนอาจหันไปประกอบอาชีพที่ตนพอใจ เนื่องจากมวยไทยไม่เพียงแต่เป็นศิลปะป้องกันตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้มือเปล่า ซึ่งสามารถนำออกมาใช้ได้ทุกเวลา เพื่อป้องกันตัวเอง





By Essays on Thailand

No comments:

Post a Comment