Tuesday, November 25, 2014

ลากหางบนเลน


ลากหางบนเลน

         จวงจื่อไปนั่งตกเบ็ดที่ริมฝั่งแม่น้ำฝูแทบทุกวันกษัตริย์แห่งรัฐฉู่ทรงทราบก็ตรัสสั่งให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่สองท่านไปหาจวงจื่อ เมื่อขุนนางผู้ใหญ่ทั้งสองไปพบจวงจื่อที่ใต้ต้นไม้ริมแม่น้ำจึงแจ้งแก่เขาว่า " พระมหากษัตริย์ของเราทรงโปรดปรานและนับถือท่าน พระองค์สั่งให้ข้าพเจ้ามาเชิญท่านไปช่วยทำการปกครองรัฐฉู่

         จวงจื่อยังคงนั่งถือคันเบ็ดเฉยอยู่เหมือนไม่ได้ยินขุนนางผู้ใหญ่จึงต้องพูดซ้ำ จวงจื่อนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้นว่า

         " ข้าพเจ้าได้ฟังคนพูดกันว่าที่รัฐฉู่มีเต่าวิเศษตัวหนึ่งตายไปนานถึงสามพันปีแล้ว มีคนเอากระดองมาแขวนไว้ที่ศาลเจ้า และมีคนพากันมากราบไหว้ทุกวัน เรื่องนี้เป็นความจริงไหม ? "

         ขุนนางผู้ใหญ่ทั้งสองพยักหน้ากล่าวว่า " เรื่องนี้เป็นความจริง "

         " ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอถามท่านสักหน่อย " จวงจื่อพูด " เต่าตัวนี้ยินดีที่จะตายเพื่อเหลือกระดองไว้ให้คนกราบไหว้บูชา หรือว่ายินดีที่จะมีชีวิตอยู่และคลานไปบนเลน "

         ขุนนางผู้ใหญ่ทั้งสองท่านนั้นต่างมองหน้ากัน แล้วตอบว่า " ย่อมสมัครใจจะมีชีวิตอยู่และคลานไปบนเลน "

         จวงจื่อหัวเราะด้วยเสียงอันดังกล่าวว่า " ถูกแล้วข้าพเจ้าก็ต้องการจะลากหางคลานไปบนเลนเหมือนกัน ! "

บันทึกใน " จวงจื่อ "



มุมมองปรัชญา

         เรื่อง " ลากหางไปบนเลน " นี้ เมื่อก่อนเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องการแยกตัวออกจากโลก หรือการเอาตัวรอด แต่โดยความเป็สนจริงแล้ว จวงจื่อไม่เคยเอาใจใส่ในเรื่องความเป็นความตาย เขาพยายามโฆษณาเผยแพร่ทรรศนะความเป็นความตายของนักธรรมชาตินิยม ฉะนั้น เรื่องดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นเพียงการเปรียบเทียบ เพื่อใช้เหตุผลปฏิเสธ ไม่ยอมไปเป็นขุนนางของกษัตริย์รัฐฉู่ซึ่งสอดคล้องกับจิตใจที่ไม่หลงใหลยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่มัวเมาอำนาจวาสนาของจวงจื่อ ในประวัติศาสตร์มีปัญญาชนจำนวนไม่น้อยได้ใช้คำว่า " ลากหางไปบนเลน " นี้มาเป็นคติในการคัดค้านและไม่ยอมร่วมก่อกรรมทำชั่วกับพวกปฏิกิริยา




By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน

No comments:

Post a Comment