ซิ่วฉ่ายชำระความ
มีคนบ้านนอกคนหนึ่งพูดถึงความใฝ่ฝันของเขาว่า " ถ้าเขามีที่นาสักร้อยหมู่ ( ไร่จีน ) ข้าก็พอใจแล้ว "
ชายที่อยู่ข้างบ้านได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็รู้สึกอิจฉาพูดขึ้นมาบ้างว่า " ถ้าแกมีนาร้อยหมู่ ข้าก็จะเลี้ยงเป็ดหมื่นตัวให้มันกินข้าวที่แกปลูกในนาให้เกลี้ยง "
ด้วยเหตุนี้ คนทั้งสองจึงโต้เถียงทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดงชนิดใครก็ไม่ยอมแพ้ ในที่สุดทั้งสองคนจึงตกลงกันเดินทางไปหานายอำเภอเพื่อให้เป้นคนตัดสิน
แต่คนทั้งสองคนไม่รู้ว่าที่ทำการอำเภออยู่ที่ไหน ฉะนั้นพอเดินทางไปถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีกำแพงและประตูสีแดง เขาก็รีบเข้าไปโดยเข้าใจว่าเป็นที่ทำการอำเภอ เมื่อเข้าไปแล้วเห็นซิ่วฉ่ายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ในห้องโถง พวกเขาจึงตรงเข้าไปคุกเข่าลงทำความเคารพ แล้วเล่าเรื่องที่เขาทะเลาะกันให้ฟังตั้งแต่ต้นจนปลาย
ซิ่วฉ่ายฟังแล้วตอบพวกเขาว่า " เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พวกท่านคนหนึ่งไปซื้อที่นา อีกคนหนึ่งไปซื้อเป็ด รอจนข้าพเจ้าได้เป็นขุนนางแล้วจึงค่อยมาเป็นผู้ชำระคดีนี้
บันทึกใน " เหรินซื่อทง "
มุมมองปรัชญา
คำตอบของผู้นี้พิจารณาดูแล้วก็มีเหตุผล เพราะขณะที่ความมุ่งหวังของคนทั้งสามยังไม่ปรากฎเป็นจริงขึ้นนั้น ล้วนแต่เป็นเรื่องลมๆ แล้งๆ ทั้งสิ้น คนเราย่อมมีความมุ่งหวังและอุดมการณ์ของแต่ละคนได้ แต่ถ้านำเอาสิ่งที่ตนคิดไว้ในสมองมายึดถือว่าเป็นความจริง แล้วยังเที่ยวโอ้อวดกระทั่งโต้เถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้วก็จะเป็นความเพ้อฝันอันไร้สาระที่ไม่ได้เริ่มต้นจากความเป็นจริง
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment