Sunday, December 16, 2012

หนทางแคบควรถอยหนึ่งก้าว อาหารรสดีควรแบ่งสามส่วน




หนทางในตอนแคบ
เหลือที่ให้คนอื่นเดินสักก้าวหนึ่ง
อาหารรสเข้มข้น
แบ่งให้คนอื่นชิมสักสามส่วน
นี้คือวิถีการดำรงชีวิตในโลก
ด้วยความสงบสุขเป็นอย่างยิ่ง


นิทัศน์อุทรหรณ์
ปากสองปาก

          มีหนอนชนิดหนึ่งเรียกันว่า " ไว่ " มันมีอะไรที่ประหลาดกว่าหนอนอื่นๆ อยู่มากทีเดียว

          เจ้า " ไว่ " นี่เป็นหนอนแปลก มีกายอยู่เพียงหนึ่งแต่มีปากอยู่สองปาก ในยามปกติมันก็อยู่ด้วยกันได้อย่างกลมเกลียวกันไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมีของกินดีๆ ปากทั้งสองของมันก็กัดกันเองเพื่อแย่งอาหารนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ต่างไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กันเลย

          ปากนั้นเลือดไหลโทรม ปากนั้นเน่า ปากนั้นไม่ขยับเขยื้อนอีกต่อไปแล้ว เจ้า " ไว่ " ตายแล้ว มันตายโดยทีไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่มันอยากกินเลยแม้สักคำ

           เจ้า " ไว่ " ถ้าหากว่ามันไม่แย่งชิงกันเองแล้ว ไม่ปากใดก็ปากหนึ่งคงจะได้ลิ้มรสชาติอันโอชะนั้นไม่มากก็น้อย


           มึงแย่งกูชิง จะมีวันเวลาแห่งความสุขได้อย่างไรกัน ?

           เราลองมาดูต้นไม้ที่โค่นเป็นสะพานที่พาดข้ามลำธารที่หมู่บ้านอิน คนตัดฟืนเดินมาทางตะวันออก ชาวประมงเดินมาทางตะวันตก คนทั้งสองเผชิญหน้ากันที่กลางสะพาน คนตจัดฟืนเป็นคนมีน้ำใจ ถึงถอยกลับมาหัวสะพานให้ชาวประมงข้ามมาก่อน

           ต่อมา ทางตะวันออกของสะพานมีคนขายของเดินมา ทางตะวันตกก็มีคนฆ่าหมูเดินมาพร้อมกัน คนขายของไม่ยอมหลีกทางให้คนฆ่าหมู คนฆ่าหมูก็ไม่ยอมหลีกทางให้คนขายของ จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วคนฆ่าหมูกับคนขายของ ยังยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางสะพานปั้นสีหน้าเข้าใส่กันจึงไม่มีใครที่สามารถกลับบ้านได้

           เพราะฉะนั้น " ภาษิตรากผัก " จึงว่า

           " เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ หากประสงค์จะอยู่เย็นเป็นสุขควรจะทำอย่างไรดี ?

           จงจำไว้ว่า " เมื่อเดินไปในทางแคบ ควรจะผ่อนปรนเว้นที่ให้คนอื่นเขาเดินสักก้าวหนึ่ง มีอาหารรสโอชา ก็ปันให้คนอื่นเขาลองชิมบ้างสักสามส่วน "

            คำโบราณกล่าวไว้ว่า " ถอยก้าวหนึ่ง ทะเลกว้างฟ้าไกล " หมายความว่า การรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาตามควรแก่กรณี จะทำให้คนเราจิตใจมีแต่เบิกบานปลอดโปร่งโล่งใจ ไม่มีอะไรรกสมอง






 By หงอิ้งหมิง ( สมัยราชวงศ์หมิง ) " สายธารแห่งปัญญา "

No comments:

Post a Comment