Saturday, December 15, 2012

ส.ส.

ทำไมจะต้องทำ

           ณ หุบเขาแห่งหนึ่ง

           อาจ้างเข้าป่าไปล่าสัตว์กับพรรคพวกจำนวนมาก เขาสั่งให้พรรคพวกจุดไฟเผาป่าเพื่อไล่เนื้อออกจากที่ซ่อน บังเอิญคราวลมแรง ไฟได้ลุกลามออกไปไกลตั้งสิบไมล์

           ขณะที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่นั้นมีชายคนหนึ่งออกมาจากซอกเขาฝ่ากองไฟออกมหยุดยืนพักหนึ่งแล้วก็ล้มลงท่ามกลางกลุ่มควันและเปลวเพลิง

           ใครๆ ก็นึกว่าเขาคงถูกไฟเผา เหลือแต่เถ้าถ่านไปแล้ว แต่ที่ไหนได้พอไฟซาลงเขาก็เดินออกมาอย่างเชื่องช้าคล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

           อาจ้างรู้สึกประหลาดใจมาก มันเป็นไปได้อย่างไร ? เขาคิดพลางเพ่งดูชายแปลกหน้าไปตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ก็เห็นว่าเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ นี่เองได้เป็นเทวดามาจากไหน แต่ทำไมจึงทนไฟได้สืบเท้าเข้าไปถามว่า


           " ท่านผู้อยู่ในหุบเขา ท่านเดินฝ่ากองไฟมาได้อย่างไร "

           ชายแปลกหน้าเลิกคิ้วสงสัย

           " หุบเขา ? กองไฟ ? ท่านหมายถึงอะไรกัน "

           " อ้าว ก็สถานที่ที่ท่านเพิ่งออกมานั่นคือหุบเขา และที่ท่านเดินลุยอยู่นั่นคือกองไฟ "

           " อย่างนั้นหรือ ข้าพเจ้าไม่ยักรู้ "

           เรื่องนี้ได้เล่าถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนกลายเป็นนิทานปรัมปรา

            ต่อมา ขงจื้อได้บอกถึงเรื่องนี้ว่า


" คนที่เข้าถึงความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง
จะสามารถมีอานุภาพเหนือคนธรรมดา
ไม่มีอะไรทำอันตรายหรือกีดขวางเขาได้
เขาจะลุยไฟ เดินบนผิวน้ำ เหาะเหินเดินดาว
หรือจะเดินทะลุกำแพงหนาทึบก็ย่อมทำได้ทั้งนั้น "

            " แล้วขงจื้อ ท่านทำได้ไหม "


" ถึงแม้ข้าพเจ้าจะสามารถทำได้
แต่ข้าพเจ้าก็สามารถไม่ทำได้เหมือนกัน "





By คิดแบบเต๋า ( นิทานปรัชญา ตีลังกาคิด )  

No comments:

Post a Comment