Saturday, September 20, 2014

น้ำใจ


น้ำใจ

        จัดรพรรดิถางซู่จงในสมัยราชวงศ์ถางทรงเป็นพุทธมามกะที่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างบริสุทธิ์ใจ มีครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงอาราธนาพระเถระผู้ใหญ่จำนวนมากเข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในพระราชวัง หลังจากประกอบพิธีเสร็จแล้ว พระองค์ทรงขอคำแนะนำเกี่ยวกับพุทธธรรมจากท่านพระราชครูฮุ่ยจง แต่ท่านพระราชครูกลับไม่แม้แต่จะเหลียวแลพระองค์

         พระองค์ทรงไม่สบายพระทัยเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสว่า " ข้าฯ คือกษัตริยราชแห่งราชวงศ์ถาง ให้เกียรติขอคำแนะนำจากท่านพระราชครู ท่านพระราชครูกลับไม่เหลียวแลข้าฯ แม้แต่น้อย " พระราชครูฮุ่ยจงจึงทูลถามพระองค์ว่า " พระองค์ทรงเห็นสุญตาหรือ ? "

        พระองค์ทรงตอบว่า " เห็น "

        พระราชครูจึงทูลถามต่อไปว่า " สุญตาไม่เคยกระพริบตาให้พระองค์หรือ ? " พระองค์ทรงตอบไม่ได้



        สุญตาไร้รูปลักษณ์ แต่สุญตาคือสัจธรรม ถ้ารู้แจ้งเห็นจริง สุญตาเพียงกระพริบตาให้เรา ยังพูดกับเรา กระทั่งสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของเราอย่างแนบแน่น ถ้าไม่มีสุญตา ร่างกายและจิตใจของเราอยู่ที่ใด ?

        แต่ในชีวิตจริง สิ่งที่เราสนใจคือน้ำใจ เช่น ใครเย็นชาเฉยเมยกับเรา ใครมีน้ำใจกับเรา ใครรักเรา ใครเกลียดเรา ฯลฯ สรุปแล้ว คิดถึงผลได้ผลเสียตลอดเวลา หรือมิเช่นนั้น ก็คิดหยุมหยิมละเอียดเรื่องเงินทอง เรื่องน้ำจิตน้ำใจเล็กน้อย เราต้องการให้ผู้อื่นชมเชยเรา ทำควสามเคารพเราเหลียวแลเราบ้าง มีน้ำใจต่อเราบ้าง เมื่อเปรียบกับความว่างเปล่าแล้วความว่างเปล่าไม่เคยกระพริบตาให้เราเลยหรือไร ? 





By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment