Thursday, September 11, 2014

เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี


เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี

        เมื่อ ๒๐ ปีก่อน มีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งชื่อว่า " เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี " ออกอากาศสัปดาห์ละครั้ง ออกอากาศนานนับสิบปี เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมโทรทัศน์อย่างมาก แต่ไม่เห็นรายการนี้มาหลายปีแล้ว คิดว่าสังคมนี้คงไม่ต้อง " ทำความดี " กันแล้ว และก็ไม่ " เป็นสุขอยู่เสมอ " แล้ว

        คำว่า " เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี " ความจริงเป็นประโยคที่ชัดเจนดีสามารถเป็นมาตรฐานในการดำเนินชีวิตให้กับผู้คนได้ ลูกเสือมีการบำเพ็ญตนวันละครั้ง คนเราถ้าทำความดีทุกวัน ย่อมเป็นสุขอยู่เสมอ

        ในตอนแรกที่รายการ " เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี " นี้ออกอากาศผู้ชมต่างไม่ยอมพลาดที่จะรอชมรายการนี้กัน เมื่อสื่อมวลชนนำเรื่องราวต่างๆ ของคนที่ทำความดีในสังคมเผยแพร่ออกไปให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้ ไม่มีใครที่จะไม่ซาบซึ้งใจ จำได้ว่าสังคมเมื่อสิบปีก่อน ทุกคนชอบดูคนที่สร้างความซาบซึ้งใจ ฟังเรื่องที่ซาบซึ้งใจ ตนเองพยายามทำตัวเป็นคนที่สร้างความซึ้งสะเทือนใจด้วย คนอื่นให้ความซาบซึ้งใจแก่เรา เราก็ให้ความซาบซึ้งใจแก่คนอื่น ต่างฝ่ายต่างซาบซึ้งใจกันและกัน สังคมนี้ช่างงดงามนัก

        ที่ผ่านมา เรามักจะเห็นข่าวในหน้านิตยสาร หนังสือพิมพ์ ลงข่าวเด็กอายุสิบกว่าขวบ เรียนหนังสือไปด้วย ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย เช่น เป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ ใช้ความสามารถของตนเองเลี้ยงดูพ่อแม่ที่พิการ เรายังเคยเห็นข่าวแม่คนหนึ่งที่ไม่รู้หนังสือ ต้องทำงานบ้านดูแลครอบครัว ทั้งยังต้องรับจ้างซักรีดเสื้อผ้า ทำงานรับจ้างชั่วคราวเพื่อหาเลี้ยงส่งเสียลูกๆ  ๕ - ๖ คนได้เรียนหนังสือ เราเคยเห็นหญิงชราบ้านนอก นำเงินนับแสนล้านที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิตบริจาคให้กับโครงการสร้างโรงเรียน เรายังเคยเห็นเจ้าพนักงานคนหนึ่งนำเงินรายได้ของตนเองเลี้ยงสุนัขจรจัดเป็นฝูง



        หรือแม้ผู้มีเมตตากรุณาคนหนึ่ง เฝ้าดูแลลูกสาวที่เป็นเจ้าหญิงนิทรามานานกว่า ๓๐ ปี หรือภรรยาผู้ประเสริฐ เฝ้าปรนนิบัติสามีที่พิการ คอยอยู่เคียงข้างเขาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต คนบางคนในสังคมชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอผดุงคุณธรรม บางคนช่วยดับเพลิงจนตัวตาย ดอกหญ้าส่งกลิ่นหอมอยู่ไม่ไกลตัว เรื่องดีเรื่องกุศลสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เพราะอะไรหรือ เพราะคำว่าเป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี ยังวนเวียนอยู่ในจิตใจของเรา กระตุ้นให้เราทุกคนทำความดีเป็นปกติ

        ถ้ารายการ " เป็นสุขเสมอเมื่อทำความดี " ยังออกอากาศอยู่ป่านนี้คงไม่มีผู้ชมอีกแล้ว แต่ยุคสมัยนี้เปลี่ยนไป เรื่องดีเรื่องกุศลไม่ค่อยได้ยินได้ฟังกันแล้ว เป็นเพราะคนสมัยนี้เขาทำความดีแต่ไม่อยากให้คนอื่นได้รู้ ดังคำที่ว่า " โยนหินถามทาง " เราไม่ได้ต้องการทำความดีเพื่อชื่อเสียงของตน แต่เพื่อชักนำคนดีๆ ออกมาร่วมทำความดีกัน

        มีคำกล่าวว่า " อย่าเห็นว่าความดีเล็กน้อยจึงไม่ทำ " ความดีเล็กๆ ก็อาจเป็นความดีใหญ่ ได้ " อย่าเห็นว่าความผิดเล็กน้อยจึงทำลงไป " ความผิดเล็กน้อยอาจกลายเป็นความผิดใหญ่ๆ ได้ น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน เม็ดทรายเล็กๆ สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ ขอเพียงหมั่นทำสิ่งที่เป็นกุศล คุณก็จะเป็นสุขเสมอเมื่อมทำความดี




By ตื่นอย่างเซน

No comments:

Post a Comment