ยาอายุวัฒนะ
กษัตริย์แห่งรัฐฉ่มีพระราชประสงค์จะมีพระชนชีพยืนนานอยู่คู่ฟ้าดิน พระองค์จึงทรงรับสั่งให้คนไปเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะตามที่ต่างๆ
วันหนึ่งได้มีชายคนหนึ่งมาที่พระราชวังเมืองฉู่ นำยาอายุวัฒนะมาถวายขุนนางประจำราชสำนักเมื่อได้รับยาก็รีบนำไปถวาย ระหว่างทางเขาได้พบราชองค์รักษ์ที่ฉมังธนูของพระราชา ราชองค์รักษ์ถามว่า " ท่านนำยาอะไรมา ? กินได้ไหม ? " ขุนนางท่านนั้นตอบว่า " นี่เป็นยาอายุวัฒนะ ทำไมจะกินไม่ได้ " ราชอ งค์รักษ์ได้ฟังเช่นนั้นก็คว้าเอายานั้นมาใส่ปากกลืนลงลำคอไป
พอกษัตริย์รัฐฉู่ทราบเรื่องก็พิโรธมาก รับสั่งให้จับเอาตัวราชองค์รักษ์ผู้นั้นไปลงโทษตัดหัว
ราชองค์รักษ์ได้ขอร้องให้คนช่วยไปกราบทูลกษัตริย์ว่า เขาได้ถามแล้วว่ากินได้หรือไม่ ขุนนางผู้นั้นบอกว่า " กินได้ " เขาจึงกิน ฉะนั้น จึงไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของขุนนางประจำราชสำนัก นอกจากนั้น ชายที่นำยามาถวายยังกล่าวว่า เป็นยาที่กินแล้วไม่ตาย แต่พอเขากินเข้าเท่านั้นก็กำลังจะถูกประหารชีวิต เมื่อเป็นเช่นนี้จะว่าเป็นยาที่กินแล้วไม่ตายกระไรได้ แสดงว่าผู้นำยามาถวายเป็นคนโกหก ถ้าหากพระองค์ประหารทหารราชองครักษ์ของพระองค์แล้ว เมื่อผู้คนทั้งหลายทราบเรื่องก็จะว่าพระมาหากษัตริย์หลงเชื่อคำคนอื่น หลอกหลวงพระองค์เอง
เมื่อกษัตริย์รัฐฉู่ได้ฟังข้างต้นนี้แล้ว ก็สั่งให้ปล่อยทหารองครักษ์ไป
บันทึกใน " หานเฟยจื่อ "
มุมมองปรัชญา
ทหารองครักษ์ผู้นั้นอาศัยเหตุที่กษัตริย์แห่งรัฐฉู่ทรงเชื่อว่ามียาอายุวัฒนะที่กินแล้วไม่ตาย ฉะนั้นถ้าพระองค์ประหารราชองครักษ์เสียก็เท่ากับว่ายาดังกล่าวเป็นของปลอมและพระองค์ก็ไม่ควรที่จะไปเสาะแสวงหาอีก ฉะนั้นทหารองค์รักษ์จึงรอดชีวิต
เรื่องนี้เป็นกาสะท้อนให้เห็นว่า พวกจิตนิยมนั้นมักจะมีการกระทำที่น่าขบขันอยู่เสมอ เขาไม่เพียงแต่หลอกลวงผู้อื่น หากยังหลอกลวงตัวเองด้วย
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment