Wednesday, September 24, 2014
ความสามารถที่แท้จริง
ความสามารถที่แท้จริง
ครั้งหนึ่ง ขณะที่ฌานาจารย์ม่าจู่นั่งทำสามาธิ จู่ๆ ท่านก็ถ่มเสมหะใส่อากาศด้วยความไม่สบายใจ พระอุปัฏฐากไม่เข้าใจ จึงถามว่า " อาจารย์โมโหอะไรหรือ ? "
ฌานาจารย์ม่าจู่ตอบว่า " อาตมานั่งสมาธิภาวนาตรงนี้ ภาพขุนเขาลำน้ำ และหมื่นปรากฎการณ์ทยอยเกิดขึ้นในความว่าเปล่า น่ารำคาญนัก "
พระอุปัฎฐากถามว่า " ภาพเหล่านั้นเป็นภาพศุภนิมิต เป็นเรื่องมงคล ทำไมอาจารย์รู้สึกรำคาญ ? "
ฌานาจารย์ม่าจู่ตอบว่า " แต่อาตมาเกลียดมาก " พระอุปัฎฐากถามอย่างฉงนสนเท่ห์ว่า " นี่คือวิสัยอะไร ? "
ฌานาจารย์ม่าจู่ตอบว่า " วิสัยพระโพธิสัตว์ ! " พระอุปัฏฐากถามอย่างงงงวยว่า " วิสัยพระโพธิสัตว์เป็นอะไรที่เข้าใจยากโดยแท้ ! ? "
ฌานาจารย์ม่าจู่ตอบว่า " เพราะเจ้ายังเป็นคน ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ " พระอุปัฏฐากถามอีกว่า " วิสัยพระโพธิสัตว์มิใช่ทุติยฌาน ( ฌานที่สอง มีองค์สาม คือละวิตกวิจารเสียได้ คงอยู่แต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิกับเอกัคตา ) ดอกหรือ ? "
ฌานาจารย์ม่าจู่ตอบว่า " เพราะเจ้ามันโง่เง่ายังไม่บรรลุ ทำไมเรียกว่าทุติยฌานล่ะ ? "
หลังจากถูกดุและตำหนิอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดพระอุปัฏฐากก็เข้าใจวิสัยของผู้บรรลุฌาน
คนทั่วไปเวลาทำสามาธิเข้าฌาน ล้วนอยากเห็นศุภนิมิต เพื่อช่วยให้ตัวเองเกิดวามมั่นใจมากขึ้น แต่ฌานาจารย์ม่าจู่กลับเกลียดสิ่งที่พบเห็น เพราะท่านได้ละทิ้งความแตกต่างระหว่างปรากฎการณ์ทั้งปวงในจักรวาลจนหมดสิ้น ละทิ้งความแตกต่างระหว่างปรากฎการณ์ทั้งปวงในจักรวาลจนหมดสิ้น ละทิ้งการปฏิบัติต่อกันระหว่างเราท่านเพื่อมนุษย์ สู่ความเป็นหนึ่งเดียว อาจกล่าวได้ว่าจิตกับโลกแห่งฌานรวมเข้าด้วยกันแล้ว
การปฏิบัติธรรมแบบฌานเป็นเช่นนี้ การทำงานก็เช่นกัน คนส่วนใหญ่มักหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นเป็นกรณีพิเศษ ถ้าไม่ขจัดความคิดที่ว่านี้แล้ว ก็ไม่มีทางฝึกความอดทนขึ้นมาได้และไม่สามารถค้นพบความสามารถที่แท้จริงของตนเองในสถานการณ์ที่ค่อนข้างชะงักงัน
By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment