เคาะถาดคลำเทียน
ชายคนหนึ่งตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด เขาจึงไม่เคยเห็นว่าดวงตาเห็นดวงอาทิตย์มีรูปร่างเป็นอย่างไร วันหนึ่งเขาอยากรู้รูปลักษณะของดวงอาทิตย์จึงไปถามเรื่องนี้จากคนตาดี คนเหล่านั้นนำถาดทองเหลืองมาใบหนึ่ง แล้วบอกเขาว่า
" ดวงอาทิตย์นั้นเหมือนกับถาดใบนี้ คือมีลักษณะกลม "
ชายตาบอดผู้นั้นเอาถาดมาแนบข้างหูแล้วลองเคาะดู เมื่อได้ยินเสียงดังของถาด เขาก็พยักหน้าว่าเข้าใจแล้ว
ผ่านไปไม่นาน ขณะที่ชายตาบอดผู้นั้นเดินไปตามถนน ครั้นได้ยินเสียงระฆังเขาก็พูดออกมาด้วยความดีใจว่า " ข้ารู้แล้ว นี่แหละพระอาทิตย์ละ ! "
คนที่อยู่ใกล้ๆ เขาจึงบอกเขาว่า " ไม่ใช่ พระอาทิตย์นั้นมีแสงสว่างเหมือนกับเทียนที่เราจุด " พร้อมกันนั้นก็นำเทียนเล่มหนึ่งมาให้เขาคลำดู ชายตาบอดคลำดูก็จดจำไว้ในใจ
อยู่มาวันหนึ่งเขาคลำไปเจอขลุ่ยเข้า เขาก็บอกคนอื่นว่า
" นี่จะต้องเป็นพระอาทิตย์แน่ๆ "
บันทึกใน " ตงพอจี๋ "
มุมมองปรัชญา
ชายตาบอดผู้นี้ไม่สามารถจะเห็นดวงอาทิตย์ จึงอาศัยแค่คำบอกเล่าของคนอื่นแล้ววาดภาพดวงอาทิตย์ขึ้นในสมองของตน เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมไม่สามารถที่จะรู้จักดวงอาทิตย์ที่แท้จริงได้
ความรู้ทั้งปวงนั้น เป้นสิ่งที่คนเราได้มาจากการปฏิบัติและเอามารับใช้การปฏิบัติ การสะสมประสบการณ์ทางอ้อมและความรู้จากเล่มหนังสือนั้นมีความสำคัญมาก แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังเป็นประสบการณ์ของผู้อื่น ถ้าหากไม่ทำการศึกษาบนพื้นฐานของการปฏิบัติด้วยตนเอง ย่อมไม่สามารถจะเข้าใจความรู้เหล่านั้นอย่างแท้จริงได้
คนบางคนพึงพอใจในความรู้ทางอ้อมอ่านหนังสือเพียงไม่กี่เล่มก็คุยโวโอ้อวดคิดว่าตนเองเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ซึ่งความจริงกลับกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะ
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment