จิตแปรตามสภาพแวดล้อม
ฌานาจารย์เทียวสุ่ยขยันหมั่นเพียรศึกษาธรรมะและทำสมาธิภาวนาเสมอ ทุกวันในอารามของท่าน จะมีผู้มาศึกษาฌานกับท่านมากมายทั้งฆราวาสและบรรพชิต แต่ลูกศิษย์ลูกหาเหล่านั้นกลัวความยากลำบาก ไม่มีความอดทน มักละทิ้งกลางคัน ฌานาจารย์เทียวสุ่ยรู้สึกผิดหวัง จึงอำลาหลวงจีนในอาราม ไปนั่งภิกขาจารร่วมกับขอทานกลุ่มใหญ่ที่ใต้สะพานแห่งหนึ่ง
สามปีให้หลัง มีศิษย์คนหนึ่งมาพบเข้า ศิษย์ผู้นั้นได้ขอคำแนะนำเกี่ยวกับฌาน ท่านพูดอย่างไม่เกรงอกเกรงใจว่า " ถ้าเจ้าใช้ชีวิตอย่างอาตมาที่ใต้สะพานแห่งนี้ได้สัก ๓ - ๕ วัน อาตมาจะสอนเจ้า "
ศิษย์ผู้นั้นจึงแต่งตัวอย่างขอทาน ผ่านชีวิตใต้สะพานไปหนึ่งวันพอวันที่สอง มีขอทานคนหนึ่งเสียชีวิต ฌานาจารย์เทียวสุ่ยกับศิษย์และขอทานคนอื่นๆ ช่วยกันหามศพขอทานที่ตายแล้วขึ้นไปฝังบนเขา เมื่อเสร็จธุระกลับมาถึงใต้สะพาน ฌานาจารย์ก็ล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ศิษย์คนนั้นจะทำอย่างไรก็ข่มตาหลับไม่ได้
ตกค่ำ ฌานาจารย์กับศิษย์ได้ส่วนแบ่งอาหารที่เหลือของขอทานที่ตายแล้ว ฌานาจารย์ฉันอย่างเอร็ดอร่อยมีรสชาติ แต่ลูกศิษย์นั่งพะอืดพะอมมองชามใส่อาหารและเศษอาหารที่แสนจะสกปรก ไม่กล้าแม้แต่จะตักใส่ปาก
ฌานาจารย์เห็นเช่นนั้น ก็กล่าวว่า " เจ้าไม่อาจเสพสุขกับชีวิตบนสวรรค์แห่งนี้ ยังคงกลับไปที่โลกมนุษย์ของเจ้าเถอะ ! "
จิตแปรตามสภาพแวดล้อม ฌานาจารย์ที่แท้จริงจะมีเนื้อดินบริสุทธิ์แห่งแดนสวรรค์ในดวงจิตเสมอ
ถ้าเราเข้าใจปรัชญาชีวิต มีความสุขกับการรู้จักพอ จะไม่กลัดกลุ้มทุกข์ร้อนกับสิ่งล่อลวงทางวัตถุ พอใจชีวิตเรียบๆ สมถะแต่จิตใจอิ่มเอมตลอดไป
By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้
No comments:
Post a Comment