Friday, August 22, 2014

งาม ๘ มุม


งาม ๘ มุม

       คนจีนมีคำพูดอยู่คำหนึ่ง " จับฉ่าย " ซึ่งความหมายตรงตัวแปลว่า ผัก ๑๐ อย่าง แต่ถ้าเป็นความหมายเปรียบเทียบเมื่อมาใช้กับคน กลายเป็น " คนจับฉ่าย " ก็คือคนที่ทำอะไรได้หลายสิ่งหลายอย่าง แต่ที่เห็นส่วนมากไม่ได้ดีสักอย่างเดียว !

       ปรัชญาญี่ปุ่นในข้อนี้ก็ใกล้เคียงกันพอสมควร เขาเปรียบกับคนที่ดูคล่องแคล่วไปหมด หยิบจับอะไรก็ดูรวดเร็วทันใจ แต่ในความเป็นจริงนั้นดูเหมือนงานที่ทำจะไม่ค่อยดีหรือไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าใดนัก และอาจจะดูไม่น่าไว้ใจเสียด้วยซ้ำ สุนทรภู่กวีเอกของไทยเคยกล่าวในทำนองที่ว่า

       " รู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียว ขอให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล " ซึ่งในปัจจุบันน่าจะต้องรู้มากขึ้นแต่ก็คงไม่ต้องถึงกับรู้ไปหมดเสียทุกเรื่องหรือแม้กระทั่งต้องงาม ๘ มุมอย่างปรัชญาญี่ปุ่นข้อนี้

       คนที่รู้จริงและรู้กว้าง คือรู้ในทุกๆ ศาสตร์หรือพอเข้าใจในพื้นฐานและรู้สึกในสายงานที่ตนได้ร่ำเรียนมา การรู้ลึกทำให้เราทำงานไ้ดอย่างเข้าใจมากขึ้น ซึ่งก็น่าจะเพียงพอกับชีวืตที่มีคุณภาพและประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

       เอ็ม เค เรสเทอรองต์ หรือ " เอ็มเค สุกี้ " ที่ตอนนี้รู้จักกันดีในฐานะร้านสุกี้ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย เมื่อกว่า ๔๐ ปีก่อนนั้น ผู้คนแถวสยามแสควร์ นิสิตจุฬา และนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ แถบนั้น เชื่อว่ายังจำร้านอาหารที่ชื่อ " เอ็มเค " ได้ดี



       เพราะอัธยาศัยของเจ้าของร้านที่ชื่อ ป้าทองคำ เมฆโต ที่แสนจะใจดี มีเมตตา มีลูกค้าหลายคนที่สตางค์ไม่พอจ่ายก้สามรถที่จะติดได้ ประเภทวันหลังมีแล้วค่อยมาจ่าย โดยแท้ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ป้าทองคำยังคงเป็นแม่ครัวให้กับเจ้าของร้านชาวฮ่องกงมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๕ ชื่อร้านเอ็มเคนั้นก็เป็นชื่อย่อของเจ้าของกิจการดั้งเดิมนี่เอง

       วันหนึ่งเจ้าของร้านต้องการเดินทางไปอยู่อเมริกาจึงบอกกับป้าทองคำให้มาทำต่อ ซึ่งในตอนแรกป้าทองคำก็ไม่แน่ใจ เพราะเคยเป็นแต่แม่ครัว กลัวบริหานจะเจ้ง แต่ด้วยหัวใจของร้านอาหารนั้นอยู่ที่ความอร่อยของอาหารเป็นอันดับแรก ป้าทองคำซึ่งเก่งและเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อยูแล้วจึงตัดสินใจรับช่วงต่อมาและก็ทำได้ดีมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ โดยที่ไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อร้านให้คงอยู่อย่างนั้นเพื่อเป็นอนุสรณ์

      แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญอยู่ที่ เจ้าสัวสัมฤทธิ์  จิราธิวัฒน์ ประธานใหญ่ของห้างเซ็นทรัลในยุคนั้นนั่นเอง ที่กำลังจะเปิดห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวและอยากจะมีร้านอาหารดีๆ โดยเฉพาะที่ขายสุกี้ อาหารแบบปรุงเองยอดนิยมของคนญี่ปุ่น จึงชวนป้าทองคำให้ลองเปิดร้านสุกี้ดู

       ป้าทองคำนั้นไม่เคยทำสุกี้ แต่ก็คิดว่าคงไม่ยากเพราะของมันเรียนกันได้ และน่าจะง่ายกว่าอาหารไทยที่ต้องมานั่งประดิดประดอยตกแต่งให้สวยงามเสียอีก จึงเรียกลูกสาวและลูกเขยมาปรึกษาหารือ และในที่สุดทุกคนก็เห็นตรงกันว่า " เมื่อเราเก่งด้านอาหารก็น่าจะลองทำดู "

       และแล้วร้านเอ็มเคในสไตล์สุกี้แห่งแรกก็เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙

       ร้านเอ็มเคเป็นเจ้าแรกที่ออกแบบหม้อปรุงไฟฟ้าที่ปลอดภัยและไม่ต้องกล้วว่าจะระเบิดเหมือนที่กำลังมีข่าวดังในช่วงนั้น และคำว่า " อร่อย... ปลอดภัย " ที่เข้าเติมเต็มก็ทำให้ร้านสุกี้เอ็มเคติดตลาดเหมือนไฟลามทุ่ง และในที่สุดก็ขยายออกไปเรื่อยๆ จนในเวลานี้รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง

       ทำให้ป้าทองคำกลายเป็นที่มีบ่อทองคำที่ชื่อ " เอ็มเค " ที่มีแต่คนเอาเงินเอาทองมาใส่ให้ทุกวันๆ มาจนถึงทุกวันนี้





By ปรัชญา " ซามูไร "

No comments:

Post a Comment