Friday, January 11, 2013

คนตายชื่อยัง เสือตายหนังอยู่




ยามเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็อบอุ่น
มวลหมู่บุผชาติก็เบ่งบานสวยสล้าง
เหล่าสกุณาส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว
สุภาพชนเมื่อมีโอกาสเงยหน้าอ้าปาก
กินอิ่มสวนอุ่นไม่ทุกข์ร้อน
กลับไม่คิดที่จะเผยแพร่ความรู้และการกระทำความดีแล้วไซร้
แม้จะอายุยืนถึงร้อยปี
ก็เหมือนยังมิได้ถือกำเนิดมาแม้สักวันเดียว

นิทัศน์อุทาหรณ์
ความฝันของมหาเศรษฐี

           ในอดีตนานมาแล้ว ในสมัยราชวงศ์โจว มีคนฐานะดีคนหนึ่งชื่ออิ่นสื้อ เขาได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะเพิ่มพูนทรัพย์สมบัติของเขาทุกๆ วัน เขาจ้างคนงานไว้เป็นจำนวนมาก มาช่วยทำไร่ไถนาก่อบ้านสร้างเรือน แต่เขาก็ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อล้าอย่างแสนสาหัสในการดูแลทรัพย์สมบัติอันใหญ่โตมโหฬารของเขาแต่เช้าจรดค่ำ ไม่มีเวลาจะพักผ่อนหย่อนใจเลย

            ในแต่ละค่ำคืน แม้เขาจะหลับแล้วก็ยังเอาไปฝัน ฝันว่าตนเองเป็นคนใช้ที่คอยรับใช้่คนอื่นอย่างหัวปักหัวปำ ทำทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้หยุดซ้ำยังต้องทนรับการทุบตีด่าว่าของเจ้านายอีกด้วย เขาฝันเป็นคนรับใช้อยู่ตลอดทั้งคืน ทำให้ความรู้สึกปวดร้าวเป็นอย่างยิ่ง จนฟ้าสาง เขาจึงตื่นกลับคืนมาเป็นมหาเศรษฐีมีเกียรติอย่างเดิม


            ในหมู่คนงานที่อิ่นสื้อจ้างมาทำงานนั้น มีคนใช้เฒ่าอยู่คนหนึ่งเขาทำงานให้แก่อ่นสื้อจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทุกๆ วัน แต่งานก็กลับมีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่เคยลดลงเลย เหนื่อยเสียจนคนงานเฒ่าคนนี้แทบขาดใจ

            แต่คนงานเฒ่าคนนี้ก็ฝันในตอนกลางคืนเหมือนกัน ฝันว่าตนเองเป็นฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ ได้รับการเคารพยกย่องจากราษฏรเป็นหมื่นๆ สามารถที่จะบริหารราชการแผ่นดินได้สะดวกดาย พำนักอยู่ในปราสาทราชวังอันหรูหรา จัดงานเลี้ยงแขกผู้มีเกียรติอยู่มิได้ว่างเว้นเสพชื่อเสียงเกียรติยศที่ตนมีอยู่ด้วยความสำราญ แต่ในทันใดที่เสียงไก่ขันดังขึ้น ความฝันฮ่องเต้อันบรรเจิดก็สะดุดหยุดลง คนงานก็ยังคงเป็นคนงานเยี่ยงเดิม

          แต่คนงานเฒ่าคนี้กลับพูดกับคนอื่นว่า " ชีวิตคนเราก็มีสั้นๆ อย่างมากก็แค่ ๑๐๐ ปี กลางวันและกลางคืนคนระครึ่ง แม้ว่าในตอนกลางวันข้าจะเป็นคนงานที่เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสก็จริง แต่ในตอนกลางคืน ข้าก็สามารถจะเปลี่ยนไปเป็นฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ได้ เมื่อเป็นดังนี้ ในชั่วชีวิตนี้ข้ายังจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกเล่า ? "

          เมื่อมองจากมุมนี้ อิ่นสื้อผู้มากด้วยทรัพย์สมบัติกลับมีความสุขสู้คนงานเฒ่าคนนี้ไม่ได้ ในชั่วชีวิตของเขาซึ่งยังไม่ถึง ๑๐๐ ปีนั้น กลางวันก็เป็นทุกข์เรื่องเงินทอง กลางคืนยังฝันว่าต้องถูกคนอื่นเขาเหยียบย่ำเป็นขี้ข้าเช่นนี้แล้ว ทรัพย์สมบัติเงินทองของเขาจะมีความหมายอะไรกัน ?

          ท่านรู้ไหมว่า อิ่นสื้อต่อมาภายหลังได้แก้ความกังวลของเขาไปอย่างไร ?

           ต่อมาเขาลดปริมาณของคนงานให้น้อยกว่าเดิม และไม่เข้มงวดในเรื่องเงินทองจนเกินไปนัก ซึ่งทำให้ความวิตกกังวลของเขาค่อยลดน้อยถอยลงเป็นลำดับ ความสุขจึงค่อยๆ เพิ่มขึ้น

           ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าหากมุ่งแต่จะแสวงหาการเสพสุขทางด้านวัตถุแต่อย่างเดียว แม้ว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างสูงศักดิ์ไปโดยตลอดก็ตาม ก็จะไร้ค่าเหมือนกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง มีชีวิตโดยเปล่าประโยชน์

            ถ้าหากเขายอมที่จะคิดแทนคนอื่น ทำแต่เรื่องดีๆ เขาก็จะได้รับความสุขกายสบายใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ความผาสุขเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เงินทองไม่สามารถจะนำมาใหเขาได้






By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )

No comments:

Post a Comment