Wednesday, September 19, 2012

ผู้ไม่สับสน คือ ผู้รู้



          มีคำกล่าวว่า... " เป็นเรื่องไม่ยากที่จะปฏิบัติหากรู้วิธีที่ยากจริงๆ คือ การค้นหาวิธีที่ถูกต้อง " ขงจื้อกล่าวว่า... " ผู้ไม่สับสนคือผู้รู้ ผู้ไม่ทุกข์ร้อนคือผู้รักคน ผู้ไม่กลัว คือผู้กล้า " มีเพียงผู้กล้าและผู้ไม่ทุกข์ร้อน จึงสามารถท่องเที่ยวไปตามลำพัง กล่าวกันว่า จะเป็นผู้กล้าที่ไม่ทุกข์ร้อน ก่อนอื่นต้องบรรลุถึงการเป็นผู้รู้ คนเหล่านั้นกว่าจะเป็นผู้รู้ ต้องผ่านประสบการณ์มากมาย ขงจื้อกล่าวว่า... " กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองบรรลุถึงความเป็นผู้รู้ เขาผ่านชีวิตมาถึง 40 ปี " เมื่อบรรลุถึงความเป็นผู้รู้ จะเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของเรื่องราวต่างๆ ใจเป็นสมาธิ สั่งการไม่สับสน ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดสามารถหลอกให้เขาหลงผิดได้ กล่าวกันว่า ผู้รู้มักเป็นฝ่ายทำให้คนอื่นขยับ แต่คนอื่นไม่สามารถทำให้เขาเขยื้อน


         เยิ่นปี้หมิง ( หยิ่มปิ๊กเม้ง ) ผู้แต่งหนังสือปรัชญาในยุคโลกาปั่นป่วนเสนอความเห็นว่า " ผู้จะสร้างความดีตชความชอบอันใหญ่หลวงและผู้ตั้งใจจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จ ต้องใช้ความรัก และความกล้าหาญ แม้แต่การอยู่ในสังคม ก็ยังต้องใช้ความรัก และความกล้าหาญ กล่าวได้ว่า เงื่อนไขพื้นฐานแห่งการอยู่ร่วมกันคือความรัก ส่วนนิยามความกล้าที่แท้จริง หมายถึงใจที่สงบนิ่ง ประกอบกับมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ จึงเป็นความกล้าที่สยบศัตรูได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมิใช่เป็นผู้รู้ จะไม่สามารถมีใจที่สงบนิ่ง มีเพียงผ้รู้เท่านั้นที่รู้จักใช้ความรัก และ รู้จักนิยามที่แท้จริงของความกล้า "





By ป.แผนสำเร็จ ( ปรัชญาการดำรงตนของจอมปราชญ์ : สรรนิพนธ์จอมปราชญ์ )