Friday, May 09, 2014

เคารพแต่ไม่ถูกผูกมัด


เคารพแต่ไม่ถูกผูกมัด

         ฌานาจารย์เสฺวียนเชื่อเป็นศิษย์ของพระเว่ยหล่าง มหาครูบา ( พระสังฆปรินายกองค์ที่ ๖ ของจีน ) หลังจากท่านบรรลุธรรมแล้ว ได้ภิกขาจารไปทั่วทุกหนแห่ง มาวันหนึ่ง ท่านพบฌานาจารย์หย่งเจียโดยบังเอิญ ทั้งสองคุยกันถูกคอมาก คล้ายรู้จักกันมานาน เพราะเหตุนี้เอง ฌานาจารย์หย่งเจียจึงมีโอกาสได้ไปเยี่ยมคารวะพระเว่ยหล่าง มหาครูบา ที่เฉาซี โดยการแนะนำของฌานาจารย์เสฺวียนเชื่อ

        ฌานาจารย์หย่งเจียขณะพบพระเว่ยหล่าง มหาครูบา ไม่ไหว้ ไม่ถาม เพียงถือไม้เท้าเดินวนรอบตัวท่าน ๓ รอบ แล้วหยุดที่ข้างหน้าท่านยืนนิ่งสำรวมหลังจากกระแทกไม้เท้าบนดินหนึ่งทีเป็นการคารวะ

        พระเว่ยหล่าง มหาครูบา เห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า " บรรชิตมีวินัยสามพัน เจ้าภิกขาจารมาจากที่ใด ไฉนหลงละเลิงดังนี้ ท่าทียโส ไม่เห็นผู้อาวุโสอยู่ในสายตา ? "



        ฌานาจารย์หย่งเจียกลับตอบว่า " กาลเวลาแวบผ่าน เป็นตายชั่วพริบตา จะเอาเวลาที่ไหนมาใส่ใจมารยาทพิธี ? "

        พระเว่ยหล่างมหาครูบาจึงถามว่า " ไม่เกิดก็ไม่ดับ ไฉนไม่แสวงมรรคแห่งการหลุดพ้น หากเจ้าทำได้ ยังจะมีเร็วช้าคงอยู่อีกหรือ ? "

        ฌานาจารย์หย่งเจียตอบว่า " ' สรีระ ' เดิม ไม่เกิดไม่ดับ มีความแตกต่างเร็วช้าที่ใดกัน ? "

        พระเว่ยหล่างมหาครูบากล่าวชมว่า " ดีมาก ! ดีมาก ! "

        ฌานาจารย์หย่งเจียพนมมือไหว้ แล้วล่ำลาพระเว่ยหล่าง มหาครูบา

        พระเว่ยหล่าง มหาครูบา จึงกล่าวว่า " พบกันแล้ว ไฉนจึงรีบลาจากเล่า ? "

        ในที่สุด พระเว่ยหล่างมหาครูบาก็รั้งฌานาจารย์หย่งเจียพักแรมหนึ่งคืนสำเร็จ นี่คือความเป็นมาของคำว่า " รู้แจ้งในคืนเดียว " ของนิกายฌานในจีน

        ฌานาจารย์หย่งเจียไม่ถูกมารยาทพิธีในยามปกติผูกมัด เพราะท่านลุฌานเหนือระดับสติปัญญาคนทั่วไปแล้ว จึงดำรงตนอยู่เหนือแบบแผนมารยาทพิธีของคนทั่วไปได้

        ถ้าเราอยู่อย่างอิสระไม่ผูกมัดตัวเองกับกฎเกณฑ์ของสังคมได้ขณะเดียวกันก็ไม่ละเมิดฝ่าฝืนกฎเกณฑ์เหล่านั้น นี่มิใช่เรื่องดียิ่งหรอกหรือ !




By เซน : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment