Saturday, May 31, 2014

จนตรอก


จนตรอก

        ค่ำคืนหนึ่ง ขโมยย่องเข้ามาในกุฎิของฌานาจารย์อานหนี ลักผ้าห่มที่ท่านมีเพียงผืนเดียวไป ฌานาจารย์อานหนีนอนไม่หลับเพราะหนาวมาก จึงเอากระดาษมาห่มแก้หนาว

        ขณะหลบหนี ขโมยวิ่งไปชนสามเเรที่เข้าเวรยามเข้า ตกใจกลัวจนลน ก็ทิ้งผ้าห่มหนีเอาตัวรอดไว้ก่อน สามเฌรเก็ยผ้าห่มขึ้นมาแล้ว รีบเอาไปให้ฌานาจารย์อานหนีที่กุฎิ ก็เห็นอาจารย์นอนสั่นห่มกระดาษกองหนึ่งอยู่

        ฌานาจารย์พอเห็นสามเฌรเอาผ้าห่มที่ถูกลักไป มาให้ ก็พูดว่า " ผ้าห่มผืนนี้มิใช่ถูกลักขโมยไปดอกหรือ ? " เจ้าเอากลับมาทำไม ในเมื่อถูกขโมยลักไปแล้ว มันก็คือของขโมย รีบเอาไปคืนให้เขาเสีย ! "



        สามเฌรเข้าใจเมตตาจิตของอาจารย์ดี จึงรีบวิ่งไล่กวดขโมยคนนั้นไปจนทัน แสดงเจตนาของท่านอาจารย์ ยืนยันมอบผ้าห่มผืนนั้นแก่ขโมย ขโมยรู้สึกซาบซึ้งติ้นตันใจอย่างยิ่ง จึงตัดสินใจออกบวชยึดพระธรรมเป็นสรณะ

         คนบางคนมักไม่ยอมให้อภัยผู้กระทำความผิด ตั้งแง่ตั้งข้อรังเกียจอยู่เสมอ ไม่ยอมให้โอกาสปรับปรุงแก้ไข บีบจนพวกเขาจนตรอก หรือยอกตกกระไดพลอยโจน ชั่วให้มันสุดๆ ลองคิดดูว่า การที่คนเหล่านี้ไม่กลับตัวกลับใจ เรามีส่วนต้องรับผิดชอบบ้างไหม เราละอายต่อมโนธรรมลึกๆ ของตัวเราเองบ้างไหม ?




By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment