Friday, May 16, 2014

หมาจิ้งจอกอิงอำนาจเสือ


หมาจิ้งจอกอิงอำนาจเสือ

         ในจำนวนรัฐที่เข้มแข็ง ๗ รัฐในสมัยจ้านกว๋อนั้นรัฐฉู่นับว่าเป็นรัฐที่เจริญเข้มแข็งรัฐหนึ่ง ครั้งหนึ่งกษัตริย์ชวนแห่งรัฐฉู่ได้ตรัสถามขุนนางผู้ใหญ่ทั้งซ้ายขวาว่า

         " ข้าพเจ้าได้ฟังมาว่ารัฐด้านเหนือต่างมีความเกรงกลัวนายพลเจาซีซี่ของเรามากใช่ใหม ? "

         บรรดาขุนนางผู้ใหญ่ต่างมองหน้ากัน ไม่กล้าทูลตอบเพราะต่างเกรงว่าถ้าตอบไม่ดีก็จะเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่ก็อาจทำให้นายพลเจาซีซี่ไม่พอใจได้

         ในขณะนั้นมีขุนนางผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชื่อเจียงอี่ได้ออกมาทูลว่า " ข้าพระองค์มีนิทานเรื่องหนึ่งที่จะเล่าถวาย พระองค์ทรงยินดีจะฟังข้าพระองค์เล่าหรือไม่พะยพค่ะ "

         กษัตริย์แห่งรัฐฉู่ทรงพยักหน้าพระพักต์ เจียงอี่จึงเล่านิทานว่า

        นานมาแล้วมีเสือโคร่งตัวหนึ่งออกตระเวนเพื่อจับสัตว์กินเป็นอาหารในป่า มันจับได้สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งสุนัขจิ้งจอกจึงกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า " แกน่ะหรือจะกล้ากินข้า ! ข้าเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมาปกครองดูแลสัตว์ทั้งหลาย ถ้าแกกินข้าก็จะเป็นการฝ่าฝืนเจตนาของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นความผิดอย่างใหญ่หลวง ! " เสือโคร่งได้ฟังเช่นนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สุนัขจิ้งจอกจึงรีบพูดต่อไปว่า " ถ้าแกไม่เชื่อ ข้าจะพาแกเดินผ่านหน้าสัตว์ทั้งหลายไปแล้วแกดูเอาเองว่าสัตว์เหล่านั้นกลัวข้าหรือไม่ ! " เมื่อเสือตกลงสุนัขจิ้งจอกจึงเดินด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ส่วนเสือเดินเหลียวซ้ายแลขวาตามมาข้างหลัง เมื่อสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในป่าเห็นเสอโคร่งเดินมาต่างก็ตกใจกลัวส่งเสียงร้องแล้วพากันหลบหนีไป เสือไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านั้นหวาดกลัวตน คิดว่ากลัวสุนัขจิ้งจอก  ฉะนั้น จึงยอมรับนับถือสุนัขจิ้งจอกอย่างเต็มที่

         พอเล่ามาถึงตอนนี้ เจียงอี่ย้อนกลับมาทูลว่า " ปัจจุบันพระองค์มอบผืนแผ่นดินของรัฐและกองทัพให้นายพลเจาซีซี่เป็นผู้ครองควบคุม การที่รัฐด้านเหนือหวาดกลัวนายพลเจาซีซี่นั้น ความจริงก็คือหวาดกลัวกำลังที่เข้มแข็งของพระองค์ ประดุจดังสัตว์ทั้งหลายกลัวเสือฉะนั้น "

บันทึกใน " จ้านกว๋อเชื่อ "



มุมมองปรัชญา

        หมาจิ้งจอกนั้นหามีกำลังที่น่ากลัวอะไรไม่ แต่เนื่องจากใช้ความองอาจผ่าเผยของเสือ จึงทำให้สัตว์ทั้งหลายกลัวเกรง กระทั่งเสือเองก็ถูกหลอกไปด้วยถ้าหากแยกหมาจิ้งจอกกับเสือออกจากกัน สภาพที่เป็นจริงก็จะปรากฎชัดขึ้นในทันที

         ในสิ่งที่สับสนนั้น มักจะปรากฎการณ์ผิวเผินต่างๆ ปกปิดไว้ ซึ่งมีทั้งที่จอมปลอมและที่แท้จริง เราควรจะรู้จักสิ่งที่เทียมหรือสิ่งที่แท้ จากข้างนอกเจาะเข้าไปสู่ข้างในทีละชั้นๆ จึงจะสามารถเปิดเผยธาตุแท้ของสิ่งนั้นๆ ออกมาได้



By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน

No comments:

Post a Comment