Thursday, February 21, 2013

เป็นนายตัวเอง

เป็นนายตัวเอง

          มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ฌานาจารย์ฝูซานหลิงอิ้วนั่งสมาธิภาวนาอยู่นั้น ฌานาจารย์หยั่งซาน ลูกศิษย์ของท่านเดินเข้ามา ท่านจึงถามว่า " นี่ ! จะพูดอะไรก็รีบพูด ! อย่ารอจนตายแล้ว คิดจะพูดก็พูดไม่ได้ "

          หยั่งซานตอบว่า " อาตมาไม่ได้บำเพ็ญเพียรแล้ว ไม่ได้ศรัทธาแล้ว ไม่เอาอะไรแล้ว ยังมีอะไรจะพูดหรือไม่พูดอีกเล่า ? "

          ฌานาจารย์หลิงอิ้วถามว่า " ไม่บำเพ็ญเพียรหลังจากบำเพ็ญเพียรแล้วใช่หรือไม่ ? ไม่เชื่อหลังจากเชื่อแล้วใช่หรือไม่ ? "

          ฌานาจารย์หลิงอิ้วถามว่า " พูดเช่นนี้ เป็นพวกหินยานที่ศึกษาฌานสมาบัติเท่านั้น "

          หยั่งซานตอบว่า " หินยานก็หินยาน อันที่จริงอาตมาไม่อยากเห็นแม้แต่พุทธะด้วยซ้ำ "


          ฌานาจารย์หลิงอิ้วถามว่า " ในคัมภีร์นิพพาน ( เนี่ยผานจิง ) ๔๐ บรรพนั้น มีอยู่มากน้อยเท่าใดที่พุทธองค์ท่านกล่าว และมีอยู่มากน้อยเท่าใดที่มารมันกล่าว ? " 

          หยั่งซานตอบว่า " นอกจากที่อาตมากล่าวแล้ว นอกนั้นล้วนมารมันกล่าว ! "

          พระอาจารย์หลิงอิ้วฟังคำตอบของลูกศิษย์แล้ว รู้สึกพอใจมากจึงพูดว่า " จากนี้ไป จไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ ! "

          ฌานาจารย์หยั่งซานยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่ต้องการแม้แตศรัทธา แล้วท่านยังต้องเชื่ออะไรอีกหรือ ? ท่านบรรลุมรรคผลในระหว่างบำเพ็ญเพียร เท่ากับนั่งเรือข้ามฟากขึ้นฝั่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องนั่งเรือย้อนกลับ

          โลกนี้มีวัตถุมากมายที่ทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ถ้าเรารักเงิน เราก็จะถูกเงินบงการ ถ้าเรางมงายในรัก เราก็จะถูกความรักบงการ ถ้าเราหวั่นเกรงอำนาจอิทธิพล เราก็จะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเราสามารถยืนบนลำแข้งตัวเอง ไม่ยอมให้สภาพแวดล้อมบงการ ก็เท่ากับเราเป็นนายตัวเอง พาตัวเองมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ





By เซน : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment