มีอยู่ครั้งหนึ่ง นักบำเพ็ญศีล ลู่ซีเซิง ไปเยี่ยมฌานาจารย์หย่างซาน พร้อมกับถามอาจารย์ว่า " อาจารย์ ประตูทั้งสามล้วนเปิดรับ ควรเข้าทางประตูไหน ? "
อาจารย์ตอบว่า " เข้าทางประตูแห่งศรัทธา "
ลู่ซีเซิงถามว่า " ที่เหลืออีกสองประตูมีประโยชน์อะไร ? "
อาจารย์ตอบว่า " จะเข้าทางสองประตูนั้นก็ได้ "
ลู่ซีเซิงถามว่า " ที่แท้ต้องเข้าประตูไหนกันแน่ ? "
อาจารย์ตอบว่า " จะเข้าทางประตูแห่งเมตตา หรือเข้าทางประตูแห่งปัญญา ก็ได้ทั้งนั้น "
ลู่ซีเซิงถามว่า " แล้วที่เหลืออีกประตูหนึ่งเล่า ? "
อาจารย์ตอบว่า " หนึ่งประตูก็พอแล้ว จะเอาสองประตู สามประตูไปทำอะไร ? "
คำตอบของฌานาจารย์หมายความว่า ทางเข้าถึงมรรคนั้น จะเข้าทางประตูไหนก็ได้ เพราะเข้าทั้งสามประตูในที่สุดก็รวมเป็นประตูเดียว ในศรัทธามีเมตตา ในเมตตามีศรัทธา มีปัญญา และในปัญญาก็มีเมตตา มีศรัทธา เพราะฉะนั้น ผู้เข้าทางประตูแห่งศรัทธาจะเข้าถึงพระพุทธได้ ผู้เข้าทางประตูแห่งเมตตาจะเข้าถึงพระธรรมได้ และผู้เข้าทางประตูแห่งปัญญาจะเข้าถึงพระสงฆ์ได้ ที่เรียกกันว่าแก้วสามดวง จะเป็นพรพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์ ก็คือแก้วทั้งนั้น
ภาษิตที่ว่า " ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม " อาจนำมาใช้อธิบายความหมายของคำว่า " ทุกประตูมุ่งสู่มรรคผล " ได้ อย่างไรก็ตามต้องการสำเร็จมรรคผล ยังคงเริ่มจากถือศีลปฏิบัติฌาน ค่อยๆ ก้าวหน้าไปอย่างมีขั้นตอน เพื่อมิให้ชีวิตแปลกแยกจากทางสายกลางหรือเปี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจะดีที่สุด
เวลาทำงาน ควรจะทำอย่างมีโครงการ สร้างความเคยชินดีงามขึ้นมา ถ้าทำได้เช่นนี้ งานล้มเหลวจะน้อยลงมาก
By เซน : วิถีแห่งความสุขแท้
No comments:
Post a Comment