Monday, December 01, 2014

สาวอิงรัฐหลู่เสียใจเรื่องรัฐเว่ย


สาวอิงรัฐหลู่เสียใจเรื่องรัฐเว่ย

         สาวอิงเป็นลูกสาวคนเฝ้าประตูในรัฐหลู่ คืนหนึ่งในฤดูร้อนบรรดาหญิงสาวต่างพากันมาก่อไฟที่ลานบ้าน แล้วกรอด้ายร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นหญิงสาวที่ชื่ออิง ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ

         พวกเพื่อนๆ เห็นแล้วแปลกใจมาก ถามว่า " มีเรื่องอะไรทำให้เธอเสียใจหรือ ? เล่าให้พวกเราฟังหน่อยซิ

         สาวอิงพูดเสียงกลั้วสะอื้นว่า " ฉันได้ฟังมาว่า เจ้าชายของรัฐเว่ยเป็นคนที่มีความประพฤติไม่ดีมาก ด้วยเหตุนี้ฉันจึงร้องไห้ "

         เพื่อนหญิงเหล่านั้นฟังแล้วก็หัวเราะพูดปลอบใจว่า " รัฐเว่ยไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับรัฐหลู่ของเราเลย ถึงเจ้าชายของรัฐเว่ยจะมีความประพฤติไม่ดีขนาดไหน นั่นก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าพวกนายและบรรดาพวกผู้ดีมีทรัพย์ เธอเป็นหญิงในครอบครัวที่ยากจน ทำไมจึงต้องไปกังวลในเรื่องอย่างนี้ด้วยเล่า ? "

         สาวอิงตอบว่า " ฉันคิดไม่เหมือนพวกเธอคิด เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาซือหม่าหวนจุยของรัฐซ่ง ทำผิดพระราชอาญาของกษัตริย์ซ่ง หลบหนีมายังรัฐหลู่ของเราและมาค้างคืนอยู่ที่นี่ ม้าของเขาเข้าไปในสวนผักบ้านฉันทั้งกินทั้งเหยียบย่ำ ทำให้ผักซึ่งกำลังงามที่ปลูกไว้ถูกกินไปไม่น้อย ปีนั้นทำให้รายได้ของเราต้องขาดไปตั้งครึ่ง

          เมื่อปีกลาย กษัตริย์โกวเจี้ยน ( ขึ้นเสวยราชย์เมื่อ 497 - 465 ปีก่อน ค.ศ. ) แห่งรัฐเยียะยกพยุหยาตราทัพด้วยขบวนอันน่าเกรงขามไปตีรัฐหวูเจ้าครองนครรัฐต่างๆ ล้วนหวาดกลัวต้องประจบเอาใจ รัฐหลู่ของเราก็ต้องคัดเลือกสาวงามส่งไปเป็นนางกำนัล พี่สาวของฉันถูกเอาตัวไป ต่อมาพี่ชายของฉันเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวผู็โชคร้ายที่รัฐเยียะ ก็ถูกโจรฆ่าตายระหว่างทาง หัวที่ถูกตัดก็หาไม่พบ "

         สาวอิงเช็ดน้ำตาแล้วกล่าวต่อไปว่า " ความจริงกองทหารของรัฐเยียะยกไปตีรัฐหวู แต่ผู้รับเคราะห์กรรมกลับเป็นพี่สาวฉัน ผู้ที่ตายน่าอนาถก็เป็นพี่ชายฉัน จากนี้จะเห็นได้ว่า ถึงแม้จะไม่ใช่คนรัฐเดียวกัน เจ้านายกับชาวบ้านมีฐานะที่สูงต่ำต่างกัน แต่ภัยพิบัติกับความสุขนั้นย่อมมีความสัมพันธ์กัน เวลานี้เขจ้านายของรัฐเว่ยมีความประพฤติไม่ดีและชอบการรบพุ่งทำสงคราม ฉันยังมีพี่ชายอยู่อีกคนหนึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรเคราะห์กรรมความวิบัติจะมาถึงตัวเขา เรื่องเป็นเช่นนี้จะไม่ทำให้ฉันวิตกกังวลได้อย่างไรเล่า ? "

บันทึกใน " หานซือไว่จาน "



มุมมองปรัชญา

          ถ้าพิจารณาจากระยะเวลาของเรื่องนี้ ซึ่งผ่านมาเป็นเวลานานถึง 2,000 กว่าปีมาแล้ว นับว่าสาวอิงมีสายตายาวไกล หล่อนสามารถจะเห็นถึงเคราะห์กรรมของครอบครัวของหล่อนต้องเผชิญนั้น มีความสัมพันธ์กับสภาพอันยุ่งเหยิงของสังคมทั้งสังคมแล้วได้ข้อสรุปว่า ภัยพิบัติกับความสุขนั้นเป็นปฏิปักษ์กันและเกี่ยวพันกัน ได้คาดคิดถึงวิภาษวิธีของสรรพสิ่งทางภววิสัยได้ในระดับหนึ่งซึ่งก็คือ สิ่งที่เป็นปฏิปักษ์กันนั้น มีลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกัน ความขัดแย้งต่างๆ ในกระบวนการพัฒนาของสิ่งนั้น ในเงื่อนไขที่แน่นอนหนึ่ง ต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน ประกอบขึ้นเป็นองค์เอกภาพ

           ถ้ามองอย่างผิวเผินแล้ว รัฐเว่ยกับรัฐหลู่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ผู้ดีกับหญิงสาวที่ยากจนนั้นมีฐานะที่ตรงกันข้าม คล้ายกับว่าในระหว่างสองสิ่งนี้ไม่มีอะไรสัมพันธ์กัน แต่โดยความจริงแล้ว สิ่งต่างๆ และปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ ในเงื่อนไขที่แน่นอน ย่อมสามารถจะเกิดความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐเว่ยย่อมจะส่งผลกระทบต่อรัฐหลู่ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าหากในชีวิตที่เป็นจริงของเรา มองไม่เห็นความสัมพันธ์แบบวิภาษเช่นนี้แล้ว ก็จะกลายเป็นคนที่มีสายตาสั้นในทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งในทางการเมืองด้วย





By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน

No comments:

Post a Comment