Monday, December 01, 2014

ไม่ยึดติดกับรูปแบบ


ไม่ยึดติดกับรูปแบบ

         สมัยราชวงศ์ถาง มีข้าหลงคนหนึ่งชื่อ เซี่ยเจี่ยน ท่านเคยถามพระเว่ยหลางมหาครูบาว่า " ขณะนี้ พวกขุนนางในเมืองหลวงที่เข้าร่วมปฏิบัติธรรมแบบฌานล้วนพูดว่า ถ้าต้องการรู้แจ้งเห็นจริง ต้องนั่งสมาธิเข้าฌาน ขอเรียนถามอาจารย์ ท่านมีความเห็นประการใด ? "

         การปฏิบัติธรรมแบบฌานก็เพื่อให้จิตบริสุทธิ์พบภาวะเดิมแท้ การเกิดปัญญาญาณอันสว่างไสว รู้แจ้งเห็นจริงนั้น มิได้อยู่ที่การนั่งสมาธิ ถ้าจิตมิรู้แจ้ง จะนั่งอย่างไรก็ไม่มีทางรู้แจ้ง เปรียบได้กับวัวเทียมรถ ถ้ารถไม่เดิน เราจะตีวัวหรือตีรถ ? ตีรถไม่มีประโยชน์แน่ ต้องตีวัว การปฏิบัติธรรมแบบฌานนั้น ถ้าเอาแต่นั่งสมาธิภาวนาย่อมไม่ได้ผล จึงต้องอาศัยจิตด้วย พระเว่ยหลางมหาครูบาจึงตอบว่า " ธรรมนั้นรู้แจ้งด้วยจิต มิได้อยู่ที่การนั่งสมาธิ

          การปฏิบัติธรรมแบบฌาน ก็เพื่อช่วยให้ตัวเองเข้าถึงภาวะเดิมแท้ที่เรียกว่าจิตแจ่มพบภาวะเดิมแท้ ( ธรรมชาติแห่งพุทธะ ) ขอเพียงจิตแจ่ม ก็จะรู้แจ้งทุกสิ่ง ขอเพียงพบภาวะเดิมแท้ ก็จะเข้าใจทุกสิ่ง เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจคำว่าจิตแจ่มพบภาวะเดิมแท้ให้ดี จึงจะเข้าสู่โลกแห่งฌานได้ ทำให้ฌานแทรกซึมอยู่ในทุกท่วงท่าอิริยาบถของเราไม่ว่าจะเดิน นิ่ง นั่ง หรือ นอน



           คนส่วนใหญ่ไม่มีมานะอดทน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ขณะที่งานยังไม่สำเร็จ ก็มักจะรออย่างเดียว เฝ้าแต่บอกตัวเองว่า พรุ่งนี้ฉันจะพยายามอย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้ขอพักผ่อนหย่อนคลายสักหน่อย พอล้มเหลว ก็มักปลอบใจตัวเองว่าโชคไม่อำนวย คนประเภทนี้ มีแต่รอความล้มเหลวครั้งใหม่ในความผิดหวังตลอดชาติ

           เราต้องมั่นใจในความสำเร็จตั้งแต่เริ่มจนจบ พยายามอย่างดีที่สุด หวงแหนทุกเวลานาที ถึงไม่ติดยึดกับรูปแบบนั้นรูปแบบนี้งานการทั้งปวงก็จะลุล่วงด้วยดี





By เซ็น : วิถีแห่งความสุขที่แท้

No comments:

Post a Comment