Monday, December 15, 2014

12 คำถามของชีวิตมนุษย์


12 คำถามของชีวิตมนุษย์

          มนุษย์ควรที่จะมีการพิจารณาตนเองอยู่สม่ำเสมอ จึงจะมีการพัฒนาทั้งในด้านการงานและด้านคุณธรรม 12 คำถามในชีวิตมนุษย์ดังต่อไปนี้ เป็นคำถามที่เราทั้งหลายควรจะนำมาพิจารณาอยู่เสมอ ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเคยถามตัวเองแบบนี้บ้างหรือไม่

          1. ฉันเกิดมาบนโลกนี้ เคยทำประโยชน์อะไรให้กับโลกใบนี้บ้าง ?

          2. ฉันได้ตอบแทนพระคุณบุพการีและอาจารย์ หรือผู้มีบุญคุณอย่างเต็มกำลังความสามารถบ้างหรือไม่ ?

          3. ฉันได้รับประโยชน์และโอกาสอันดีจากโลกใบนี้ ฉันได้ตอบแทนกลับให้โลกมากเท่าไหร่ ?

          4. ฉันเคยติดหนี้บุญคุณต่อครูบาอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหายและสังคมบ้างหรือไม่ ?

          5. โลกมนุษย์นี้ให้เหตุปัจจัยต่างๆ ทำให้ฉันได้มีที่อยู่ที่กิน ที่พักพิงและได้รับการศึกษา และได้รับความสุขต่างๆ ฉันได้ให้สิ่งเหล่านี้กับผู้อื่นหรือไม่ ?

          6. ฉันเคยเข้าใจตัวเองว่าเกิดมาอย่างไร และตายแล้วไปไหนบ้างหรือไม่ ?

          7. ฉันเคยตรวจดูจิตใจของตนหรือไม่ว่าในแต่ละวันเป็นสวรรค์เป็นนรกกี่ครั้ง ?

          8. ฉันสามารถอธิบายได้หรือไม่ว่าสภาวะจิตในแต่ละวันที่วนเวียนไปด้วยเรื่องของความโลภ ความโกรธ ความหลง ความลังเลอิจฉาเป็นอย่างไร ?

          9. ภาษิตจีนกล่าวว่า ต้องพิจารณาจิตใจของตนวันละสามครั้งแต่ละครั้งนั้นได้พิจารณาเห็นอะไรบ้าง ?

          10. ฉันมีชีวิตอย่างเป็นสุขบนโลกนี้ได้อย่างไร ?

          11. ฉันควรจะขจัดกิเลสและอวิชชาอย่างไร ? และค้นหาซึ่งจิตเดิมแท้อย่างไร ?

          12. ฉันจะจัดแจงซึ่งเหตุปัจจัยของชาตินี้อย่างไร ?

          คำถามทั้ง 12 คำถามนี้ เป็นคำถามระหว่างตนเองกับผู้อื่น ตนเองกับสังคม และรวมไปถึงเรื่องของประเทศชาติ



          คนเราส่วนใหญ่มักจะคิดถึงแต่เรื่องประโยชน์ของตนเอง ส่วนน้อยที่จะเอาใจใส่ในประโยชน์ของผู้อื่น ด้วยเหตุนี้เราจึงมักจะวางตัวเองอยู่เหนือผลประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติ จึงทำให้เกิดปัญหามากมาย ฉะนั้นมีคนมากมายยามที่พบเจออุปสรรค มิหนำซ้ำยังไม่เคยพิจารณาซึ่งความผิดของตนเอง ได้แต่โทษฟ้าโทษดิน โทษผู้อื่น และโทษว่าเป็นชะตาฟ้าลิขิต ไม่เคยรู้เลยว่าต้นเหตุนั้นเกิดจากตนเอง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความคิดความอ่าน ความประพฤติ หรือจิตอกุศล ฉะนั้น จึงมักจะเป็นทุข์เศร้าโศกและวิตกกังวลในชีวิต

          กฎแห่งกรรมที่เป็นสัจธรรมดังบทเพลงชีวิตที่ว่า คนใดจิตใจดี ชะตาชีวิตดี ก็จะมากด้วยบุญบารมี มั่งมีศรีสุข จิตใจดีแต่ชะตาชีวิตไม่สู้ดีก็จะผ่านชีวิตไปได้อย่างไม่ขัดสน ชะตาชีวิตดีแต่จิตใจไม่ดีอนาคตก็จะไม่ปลอดภัย จิตใจไม่ดีชะตาชีวิตก็ไม่ดีอาภัพนักแล พระอัครสาวกจุฬปันถกเดิมเป็นคนเขลา ไม่เคยโทษชะตาชีวิตตน แต่กลับรู้จักขอขมาซึ่งบาปกรรมที่ตนเคยก่อไว้ในอดีตชาติ ตั้งใจบำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรม จนในที่สุดก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ในสมัยพุทธกาล มีพระเทวทัตต์ซึ่งเดิมที่เคยเป็นเจ้าชาย แต่เนื่องจากมีจิตอกุศลต้องการเป็นใหญ่ จึงได้ยุแหย่ให้สงฆ์แตกกันและเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต สุดท้ายโดนธรณีสูบรับกรรมที่ตนก่อไว้

          ฉะนั้น ถ้าเราย้อนมองตั้งแต่ครั้นโบราณกาลมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวหน้าเพียงใด มนุษย์เราก็ต้องพัฒนาด้านจิตใจและปรับตัวเองให้ทันโลกทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ถึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเพ่งพิจารณาตัวเองให้มากขึ้น และสร้างเหตุปัจจัยอันดีงามอยู่เสมอ จึงจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างเป็นสุข





By เซนส่องทาง

No comments:

Post a Comment