Thursday, December 11, 2014
อนิจจังอันล้ำค่า
อนิจจังอันล้ำค่า
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีศาสนา เพราะชีวิตมนุษย์นั้นมีปัญหาในเรื่องของการเกิดตาย ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อในเรื่องของศาสนา และศาสนาทุกศาสนาในโลกนี้ก็ล้วนแล้วแต่สอนและเน้นในเรื่องนี้ด้วยกันทั้งนั้น อนิจจังเป็นสัจธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา คนทั่วไปมักจะไม่เข้าใจในความหมายที่แท้จริงของอนิจจัง จึงเป็นเหตุให้เกิดความสับสนและยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้ ทำให้รู้สึกหวาดกลัวต่อคำคำนี้
แท้จริงแล้ว อนิจจังเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีอนิจจังหรือความไม่เที่ยงนี้จึงมีซึ่งความหวัง เพราะความไม่เที่ยงนี้จึงจะมีซึ่งอนาคต มีคำพูดที่ว่า " อนิจจังคือความทุกข์ที่ว่างเปล่า และคือความสุขที่มีอยู่ "ถ้าหากว่าทุกเรื่องในโลกนี้ได้ถูกกำหนดตายตัวไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้กระทั่งการเกิดและตายความแก่เป็นอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้น เด็กก็เป็นเด็กตลอดกาล ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเราจะรู้สึกอย่างไร ? เพราะฉะนั้นอนิจจังจึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก
และแน่นอนว่า อนิจจังความไม่เที่ยงนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและไม่ดี แต่การที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างๆ เหตุเพราะความไม่เที่ยงนี้จึงทำให้มนุษย์รักชีวิตของตนเองแะรักในสิ่งที่ตนเป็นเจ้าของ ทะนุถนอมสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตน รวมทั้งความสัมพันธ์ในทุกๆ ด้าน
ในยามที่เราเห็นดอกไม้ที่กำลังเหี่ยวแห้งและโรยรา สะท้อนให้เข้าใจในเรื่องของความไม่เที่ยง และเมื่อยามที่เราเห็นเมล็ดพืชที่กำลังจะแตกหน่อ หรือความเจริญงอกงามอยู่นั้น ก็จะทำให้เรารู้สึกถึงความล้ำค่าของอนิจจัง
ในอดีตมีการปกครองแบบพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ราษฎรไม่มีสิทธิ์ในการเมืองการปกครองใดๆ ถ้าหากไม่มีซึ่งอนิจจังแล้วนั้น ก็จะไม่มีซึ่งความเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะไม่มีระบอบประชาธิปไตยในวันนี้ ในอดีตยุคหิน มนุษย์ในยุคนั้นยังป่าเถื่อนไม่เจริญ ถ้าไม่มีซึ่งความไม่เที่ยง เราก็คงมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีวัฒนธรรมความเจริญต่อไป
ด้วยว่าเราทั้งหลายอยู่ในโลกแห่งความไม่เที่ยงนี้ ฉะนั้นยามที่เรามีเงินทองมีอำนาจก็จงอย่าได้ลำพองใจ เพราะการมีทรัพย์สมบัติและยศถาบรรดาศักดิ์นั้นเป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้กระทั่งเรื่องของกายสังขารของตัวเองก็ไม่เที่ยงเช่นเดียวกัน ชีวิตเปรียบเหมือนปลาในน้ำน้อย พึงอย่าได้ยึดติดมากนัก แต่ควรให้อนิจจังเป็นเรื่องเตือนสติตน ให้ทำในสิ่งที่ควรทำ มีสติเตรียมพร้อมในการกระทำ
อนิจจังเป็นธรรมชาติของจักรวาล ด้วยเหตุนี้นักปราชญ์ในทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่โบราณกาลมาก็มักจะแต่งบทความที่สะท้อนในเรื่องของอนิจจัง จะขอยกตัวอย่างในบทสวดของพิธีโยคาตันตระบทหนึ่งที่ว่า " ม้าศึกแม่ทัพกล้าอยู่หนใด ไยเหลือเพียงหย่อมหญ้าน่าเศร้าใจ " จะเห็นได้ว่าเป็นบทที่พรรณนาถึงความไม่เที่ยง ยังมีบทกวีของจีนอีกบทหนึ่งที่กล่าวถึง " ลมเหมันต์โชยพัดให้หนาวจิต คนใกล้ชิดผู้แกล้วกล้าไม่หวนคืน " ทำให้เราสัมผัสได้ถึงการหวนรำลึกถึงผู้กล้าทั้งหลาย
ถึงแม้ว่าความไม่เที่ยงเป็นทุกข์และเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์ แต่ในท่ามกลางความไม่เที่ยงนี้ เราทั้งหลายต่างก็มีจิตใจในการที่จะรู้เท่าทันและเข้าใจในสัจธรรมต่างๆ ได้ การรู้เท่าทันเช่นนี้จึงเป็นหนทางที่จะทำให้เราเป็นอิสระและมีความสุขสงบได้
By เซนส่องทาง
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment