ชาวเมืองเยียะไม่สวมหมวกและรองเท้า
มีผัวเมียคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในนครหลวงของรัฐหลู่ ผัวมีฝีมือในการใช้ต้นหญ้าถักรองเท้า ส่วนเมียเก่งในการทอผ้าป่าน จึงมีฐานะพอกินพอใช้ด้วยการอาศัยฝีมือของตน
ผัวเมียคู่นี้ได้ยินคนพูดกันอยู่บ่อยๆ ว่า รัฐเยียะนั้นเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ วันหนึ่งผัวเมียสองคนนี้จึงจัดแจงเก็บข้าวของเตรียมตัวจะเดินทางไปอยู่รัฐเยียะ เพื่อบ้านเห็นเข้าก็บอกเขาว่า " ถ้าย้ายไปอยู่เมืองเยียะพวกท่านจะต้องยากจนไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแน่ๆ "
ผัวเมียคู่นั้นฟังแล้วไม่พอใจกล่าวว่า " เราสองคนถักรองเท้าหญ้าเป็นทอผ้าป่านได้ การกินอยู่ก็ประหยัด ฉะนั้นอีกไม่นานเราก็รวย "
เพื่อนบ้านกล่าวว่า " รองเท้าหญ้าทำขึ้นเพื่อสวมเท้า แต่เมืองเยียะนั้นเป็นเมืองที่มีน้ำอยู่ทั่วไป ด้วยเหตุนี้คนเมืองเยียะจึงเดินตีนเปล่าไม่ใส่รองเท้า ส่วนผ้าป่านก็ใช้สำหรับเย็บหมวก แต่เมื่องเยียะมีฝนตกชุก คนเมืองเยียะแต่ไหนแต่ไรมาไม่มีใครสวมหมวก "
ผัวเมียสองคนฟังแล้วนิ่งอึ้งถามว่า " เป็นจริงอย่างนั้นหรือ ? "
เพื่อนบ้านหัวเราะพูดว่า " ทำไมจะไม่จริง ถึงแม้ท่านทั้งสองจะมีฝีมือจริงแต่เมื่อไปในเมืองทีไม่สามารถใช้ฝีมือแล้ว ก็จะต้องอดอยากยากจนไม่มีอะไรจะยาไส้ "
บันทึกใน " หานเฟยจื่อ "
มุมมองปรัชญา
เมื่อจะทำการค้าก็ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า คนเราทำอะไรก็ตาม จะทำแบบหลับหูหลับตาไม่คำนึงถึงเป้าหมายทางวิสัยนั้นไม่ได้ ความรู้ความสามารถและฝีมือทั้งปวง ต้องสอดคล้องกับความต้องการของการปฏิบัติทางสังคม มิเช่นนั้นแล้ว ถึงแม้ความรู้จะมากฝีมือจะดีก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment