ชีวิตคนที่แท้จริงเป็นดังหุ่น
ถ้ายึดกุมเชือกอยู่ในมือ
ไม่สับสนวุ่นวาย
ก็เชิดได้อย่างเสรี
เต้นหรือหยุดอยู่กับเรา
ไม่ถูกชักใยโดยคนอื่น
จึงหลุดพ้นไปจากเวทีนั้น
นิทัศน์อุทาหรณ์
ไปดูเขาเชิดหุ่นกันเถิด !
ที่ลานกว้างหน้าวัด มีไม้กระดาน ผ้าใบ ตั้งเป็นเวทีขึ้นมาแล้วตอนนี้มีเสียงฆ้องกลองส่งเสียงดังสนั่น ละครหุ่นกำลังจะเริ่มแสดงแล้ว
ไป๋ซู่เจิน ดื่มเหล้าเหลืองในตอนเที่ยงวัน แล้วลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น ชั่วอึดใจเดียว กลายเป็นงูขาวใหญ่ตัวหนึ่ง ทำเอา่สี่เซียนผู้สามีเข่าอ่อน สั่นสะท้านไปทั่งตัวด้วยความกลัว
ไป่เฮ่อกับกุ้ยฮวาเด็กหญิงสองคนพี่น้องนั่งเบียดกันอยู่ม้าตัวหนึ่ง เหมือนถูกตะปูตอกตรึง
อยู่บนนั้น นัยน์ตาจ้องดูไป๋ซู่เจินที่อยู่บนเวทีอย่างไม่กะพริบ ดูเข็มขัดปักดิ้นทองของหล่อน ดูผิวเนื้อที่สะอาดของหล่อนดูชายเสื้อที่ปลิวไปตามลมเหมือนกำลังบินของหล่อนสองคนพี่น้องชอบไป๋ซู่เจินเหลอเกิน
นิทานเรื่องนี้ พี่น้องทั้งสองเคยฟังคุณปู่เล่าให้ฟังมาแล้ว ทว่าในงานวัดทุกงาน จะมีคณะงิ้วมาแสดงเรื่อง " นางพญางูขาว " นี้แทบจะทุกคณะไป แต่การแสดงหุ่นคราวนี้ไม่เหมือนกับคณะงิ้วอื่นๆ ที่เคยแสดงมาแล้ว มีการพากย์ด้วยคำตลกคะนองซึ่งเด็กๆ ชอบใจหัวเราะกันไม่หุบปาก ทำให้ " นางพญางูขาว " สนุกสนานครึกครื้นยิ่งขึ้น
เสียงดังขึ้นวีดใหญ่ ไป๋ซู่เจินถูกนำไปขังอยู่ในเจดีย์เหลยเฟิงแล้วสี่เซียนไม่อาจจะพบหน้ากับภรรยาสุดที่รักของเขาได้อีกต่อไป เขาร้องคร่ำครวญอยู่ข้างเจดีย์ ปิ่มว่าใจจะขาดใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็สายไป...
การแสดงใกล้จะยุติ เสียงฆ้องกลองโหมกระหน่ำกันขนานใหญ่ครั้นแล้ว เสียงทั้งหมดก็เงียบไปฉับพลันทันที การแสดงในวันนั้นก็จบสิ้นลง
เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นแทนที่ คนทั้งหลายยังจมอยู่ในโลกที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ไปเฮ่อคว้ามือกุ้ยฮวา ทั้งจูงทั้งลากไปทางหลังโรง เพื่อไปดูไป๋ซู่เจินกับเสี่ยวชิงซึ่งสวยหยาดเยิ้มติดใจนัก
แต่หุ่นของไป๋ซู่เจิน เสี่ยวชิง กับสี่เซียน นอนระเกะระกะไร้ชีวิตอยู่บนหลังหีบ นัยน์ตานิ่งสนิท เฉยเมยเหมือนปลาตาย ความน่ารักน่าสมเพชไม่เหลือให้เห็นอยู่อีกเลย
" โธ่ เราลืมไปว่ามันเป็นหุ่น นึกว่ามันมีชีวิตเหมือนเรา " กุ้ยฮวาร้องขึ้นเมื่อได้สำนึก
ใช่ มันเป็นหุ่นเชิด คนไปเชิดมัน มันจึงเคลื่อนไหวได้ แม้ว่ามันเคยมีชีวิตชีวา เคยโผผินบินอยู่ก่อน แต่ถ้าคนเชิดวางมันลง มันก็เป็นแค่หุ่นที่ไร้ชีวิต
ดูไปก็เหมือนกับการปฏิบัติตนของคนเรา ถ้าเอาแต่ฟังเสียงคนอื่นเลียนแบบคนอื่น ไม่มีความคิดเห็นของตัวเอง ไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็คงจะไม่แตกต่างกับหุ่นเชิดนี้เท่าใดนัก !
By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
No comments:
Post a Comment