Tuesday, May 06, 2014
ปล่อยวางแบบฌาน
ปล่อยวางแบบฌาน
พระอุปัฏฐากของฌานาจารย์ฝ่าชิ่งหลังจากอ่าน ' บันทึกต้งซ่านลู่ ' แล้ว พูดด้วยน้ำเสียงปลงว่า " คนสมัยโบราณเห็นการเกิดการตายเป็นเรื่องธรรมดา นี่เป็นเรื่องประหลาดโดยแท้ " ฌานาจารย์ได้ยินเช่นนั้น จึงพูดว่า " เมื่ออาตมานั่งสมาธิดับขันธ์ในฌานสมาบัติไป หากเจ้าเรียกอาตมากลับมาได้ แสดงว่าอาตมาเกิดดับโดยอิสรเสรี เห็นการเกิดการตายเป็นเรื่องธรรมดา "
พระอุปัฏฐากมองหน้าอาจารย์ด้วยความฉงน อาจารย์ก็ทำนายล่วงหน้าว่าตนจะดับขันธ์เข้าสู่นิพพานในวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ถึงตอนนั้นสังขารท่านซึ่งประกอบขึ้นมาจากดิน น้ำ ลม ไฟ ก็จะแตกดับกระจัดกระจายไปรอบทิศ จึงขอให้นำเถ้าสังขารท่านหว่านโปรยในสายลม อย่านำไปฝังเด็ดขาด เพราะเป็นการเบียดเบียนที่ดินชาวบ้านทำบุญทำทานให้วัด
เมื่อถึงวันขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ฌานาจารย์ฝ่าชิ่งไดนำปัจจัยต่างๆ ที่ท่านยังมีเหลืออยู่บ้างแจกจ่ายแก่หลวงจีนในวัด พอเสียงโมงยามแรกดังขึ้นในค่ำนั้น ท่านก็นั่งสมาธิ ดับขันธ์ในฌานสมาบัติไป
พระอุปัฏฐากจำคำสั่งเสียของอาจารย์ก่อนหน้านี้ได้ จึงร้องเรียกว่า " ฌานาจารย์ ! ฌานาจารย์ ! " ผ่านไปไม่นาน ฌานาจารย์ก็ลืมตาขึ้นถามว่า " อะไรหรือ ? "
พระอุปัฏฐากพูดว่า " ทำไมอาจารย์ไม่สวมใส่เสื้อผ้า ถุงเท้าและรองเท้าไปด้วย ? " อาจารย์ตอบว่า " ตอนเกิด อาตมาไม่ได้เอาอะไรมาตอนนี้ไยต้องเอาอะไรไป ? " พูดจบก็ดับขันธ์สู่นิพพาน
คนเรามาตัวเปล่า ไปตัวเปล่า เอาอะไรไปไม่ได้เลย ถ้าเราเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ ไม่อาลัยอาวรณ์ของนอกกายรวมทั้งสังขารตัวเองแบบฌานาจารย์ฝ่าชิ่ง แล้ว ก็จะสามารถปล่อยวางทกสิ่ง เผชิญหน้ากับความเป็นความตายโดยไม่ประหวั่นพรั่นพรึง นี่ก็คือจิตวิมุต ( หลุดพ้น ) อย่างแท้จริง
By เซน : วิถีแห่งความสุขที่แท้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment