คนที่ชอบโต้แย้ง
ที่อิ๋งซิวปัญญาชนคนหนึ่งซึ่งมักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นเป็นประจำ โดยเฉพาะเขาเป็นคนชอบโต้แย้งชนิดไม่ยอมแพ้ใคร ทั้งๆ ที่เป็นการเถียงข้างๆ คูๆ ชนิดไม่มีเหตุผล
วันหนึ่งเขาไปหาอ้ายจื่อและถามว่า " ทำไมที่ใต้เกวียนและคออูฐจึงมักแขวนกระดิ่ง ? "
อ้ายจื่อตอบว่า " เกวียนและอูฐนั้นเทอะทะและมักจะเดินทางในเวลากลางคืน เนื่องจากเกรงว่าเวลาอยู่ในทางแคบ หลีกกันไม่ทันจะชนกันขึ้นจึงติดกระดิ่ง เมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ยินเสียงก็จะได้เตรียมหลีกทาง "
ชายชาวอิ๋งซิวกล่าวว่า " การที่บนสถูปแขวนกระดิ่งไว้ก็เพื่อกันไม่ให้่เกิดชนกันขึ้นในเวลาเดินทางตอนกลางคืนอย่างนั้นหรือ ? "
อ้ายจื่อตอบว่า " ท่านช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ! เนื่องจากนกกาทั้งหลายชอบทำรังในที่สูงแล้ว ก็ถ่ายมูลลงมาเปรอะเปื้อนด้วยเหตุนี้บนสถูปจึงแขวนกระดิ่งไว้ เวลาลมพัดเสียงดังของกระดิ่งก็จะไล่นกกาไป ทำให้มันไม่กล้าทำรังบนนั้น ทำไมจึงเอามาเปรียบกับเกวียนและอูฐเล่า ? "
ชาวอิ๋งซิวพูดต่อไปว่า " การผูกกระดิ่งไว้ที่หางเหยี่ยวนั้น ก็เพราะกลัวว่านกกาจะไปทำรังที่หางของมันใช่ไหม ? "
อ้ายจื่อฟังแล้วหัวเราะพูดว่า " ประหลาดมาก ท่านช่างเป็นคนที่ไม่เข้าใจเหตุผลอะไรเลย ! เหยี่ยวเวลาบินไปจับนกหรือเข้าไปในป่านั้นถ้าหากเชือกที่ล่ามไว้ไปพันกับต้นไม้ พอมันกระพือปีกกระดิ่งก็จะดัง ทำให้เจ้าของไปตามหามันได้ง่ายขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะพูดว่า กันไม่ให้นกกามาทำรังไดอย่างไร "
ชาวอิ๋งซิวถามต่อไปว่า " ในการซักศพที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นข้างหน้ามีคนเดินสั่นกระดิ่ง ปากก็ร้องเพลง เมื่อก่อนนี้ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาจึงต้องทำเช่นนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่าเขากลัวกิ่งไม้จะพันขาเขาไว้ แต่ที่ยังไม่แน่ใจก็คือเชือกที่ล่ามขาเขาไว้นั้นทำด้วยหนังหรือทำด้วยปอ "
อ้ายจื่อฟังแล้วรู้สึกรำคาญเต็มทนจึงตอบว่า " นั่นเป็นการเบิกทางให้แก่คนตายที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะก่อนตายเจ้าหมอนั่นชอบโต้เถียงอย่างไม่ได้เรื่องได้ราวกับคนอื่นด้วยเหตุนี้ จึงต้องสั่นกระดิ่งเพื่อให้เจ้าคนที่ตายนั้นฟังแล้วสบายอกสบายใจ "
บันทึกใน " อ้ายจื่อจ๋าซ่อ "
มุมมองปรัชญา
กระดิ่งนั้นมีหลายชนิด สำหรับใช้ทำประโยชน์ที่ต่างกันกระดิ่งที่ชาวอิ๋งซิวถามเป็นกระดิ่งที่ติดไว้กับเกวียนหรือรถและแขวนไว้ที่คออูฐ เมื่ออ้ายจื่ออธิบายให้ฟังแล้วก็ควรยุติเพียงแค่นั้น แต่ชาวอิ๋งซิวคนนี้กลับทำให้ปัญหาแตกกิ่งก้านสาขาออกไปถึงกระดิ่งบนสถูป กระดิ่งที่หางเหยี่ยว และในพิธีชักศพ เป็นต้น นี่เป็นการเปลี่ยนจากเรื่องและปัญหาที่มีอยู่เดิมออกนอกลู่นอกทางไป ถ้าขืนโต้แย้งแบบนี้ต่อไปแล้วในโลกยนี้จะไม่มีปัญหาอะไร ได้รับคำตอบที่แน่นอนเพราะสามารถจะเอาสิ่งที่คล้ายกันบางอย่างด้านภายนอก มาต่อความยาวสาวความยืดแทนสิ่งนั้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อันเป็นการทำให้ปัญหาสับสนปฏิเสธคำตอบต่างๆ ที่มีอยู่
การถกเถียงนั้น จุดมุ่งหมายก็เพื่อให้เห็นว่าอะไรถูกอะไรผิด ทำให้ยิ่งโต้แย้งสัจธรรมยิ่งเด่นชัด การโต้แย้งแบบนอกลู่นอกทาง เป็นการทำให้สิ่งที่ถูกกับผิดปนเปกันปกปิดสัจธรรม เอาสิ่งที่ไม่มีเหตุผลมาแทนสิ่งที่มีเหตุผลทำให้การโต้แย้งที่เป็นเรื่องดีกลับกลายเป็นเรื่องไม่ดีไป
By ปรัชญาชีวิตใน สุภาษิตจีน
No comments:
Post a Comment