Monday, February 24, 2014

สามคนกลายเป็นเสือ


สามคนกลายเป็นเสือ

         ในสงครามระหว่างรัฐ ( จั้นกวอ ) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีรัฐประเทศเล็กๆ อยู่หลายรัฐ ซึ่งแต่ละรัฐมักก่อสงครามรบพุ่งกันเสมอ จึงถือได้ว่ายุคนั้นเป็นยุคแห่งการสงคราม

          ในยุคนั้นมีรัฐ ๒ รัฐที่มีเขตแดนติดกันคือ รัฐเว่ยและรัฐเจ้า และเพื่อเป็นคำมั่นของการเจริญสัมพันธไมตรีเพื่อต้องการหยุดสู้รบ ทั้ง ๒ รัฐจึงได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนคนซึ่งกันและกันเพื่อเป็นหลักประกัน ดังนั้นอ๋องรัฐเว่ยจึงส่งบุตรชายคนเดียวของตนไปเป็นตัวประกันในเมืองหลวงรัฐเจ้า ทั้งยังส่งขุนนางชั่นสูงนาม ผางชง เดินทางไปยังรัฐเจ้าด้วยเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้องค์รัชทายาทแห่งรัฐเว่ย

          ผางชง เป็นขุนนางที่มีความรู้ความสามารถอย่างยิ่ง ในวังหลวงจึงมีขุนนางอื่นที่ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับเขามากมายเนื่องจากความริษยา ดังนั้นเขาจึงเกรงว่าหากตนเองเดินทางออกจากวังหลวงแล้วจะมีผู้ไม่หวังดีมาเพ็ดทูลให้ร้ายตน ดังนั้นก่อนออกเดินทาง เขายึงกล่าวกับอ๋องรัฐเว่ยว่า



          " ท่านอ๋องหากตอนนี้มีคนผู้หนึ่งกล่าวว่า บนท้องถนนกลางเมืองมีเสือเดินมา ท่านจะเชื่อหรือไม่ ? "

          อ๋องรัฐเว่ยกล่าวว่า "ย่อมไม่เชื่อ เสือที่ไหนจะมาวิ่งบนท้องถนนกลางเมือง "

          ผางชง กล่าวอีกว่า " หากมีคน ๒ คนกล่าวเช่นเดียวกันเล่า ท่านจะเชื่อหรือไม่ ? "

         อ๋องรัฐเว่ยตอบว่า " หาก ๒ คนพูดเหมือนกัน ข้าก็คงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "

         ผางชงจึงกล่าวว่า " งั้นหากมีคนถึง ๓ คน กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า บนท้องถนนปรากฏเสือตัวใหญ่ ท่านเห็นอย่างไร ? "

         คราครั้งนี้อ๋องรัฐเว่ยจึงตอบว่า " ถ้าทุกคนพูดเหมือนกัน ข้าก็ได้แต่เชื่อเช่นนั้นแล้ว "

         เมื่อได้ยินอ๋องรัฐเว่ยกล่าวเช่นนั้น ขุนนางใหญ่ได้แต่ถอนหายใจ พลางกล่าวว่า " ท่านอ๋อง เสือไม่อาจวิ่งมาบนท้องถนน เรื่องนี้คนทั่วไปต่างทราบดี แต่เพียงมีคน ๓ คนพูดเหมือนกัน เรื่องเสือบนถนนกลับกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา เช่นเดียวกับหานตาน ( เมืองหลวงแห่งรัฐเจ้า ) ซึ่งห่างไกลจากต้าเหลียง ( เมืองหลวงแห่งรัฐเว่ย ) เรามากโข ทั้งคนที่จะรอเรื่องเพ็ดทูลต่างๆ ต่อพระองค์ก็ไม่ใช่มีเพียงแต่ ๓ คนเท่านั้น "

         อ๋องรัฐเว่ยเข้าใจความนัยของขุนนางเอก จึงพยักหน้ากล่าวว่า " ข้าเข้าใจ เจ้าจงวางใจและเดินทางไปเถิด "

        จากนั้นรัชทายาทพร้อมด้วยขุนนางผางจงจึงออกเดินทาง

         หลังจากที่ผางชงจากไปไม่นาน ก็มีบรรดาขุนนางที่ริษยาพากันมาเพ็ดทูลให้ร้ายเขาดังที่เขาคาดไว้ แตอ๋องรัฐเว่ยก็แก้ต่างให้ผางชงในทุกๆ ครั้ง และยกย่องผางชงว่าเป็นขุนนางผู้มีสติปัญญาและความจงรักภักดี

         แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เมื่ออ๋องรัฐเว่ยได้ฟังเรื่องราวความไม่ดีของผางชงมากขึ้นๆ สุดท้ายอ๋องรัฐเว่ยก็กลับคล้อยตามและเชื่อว่าผางชงเป็นขุนนางโฉดไปในที่สุด

          สามคนกลายป็นเสือ แม้ความจริงไ่ม่มีเสือ แต่เมื่อหลายคนพูดเช่นเดียวกันข่าวลือว่ามีเสือทำให้ผู้คนที่รับฟังเชื่อว่าเป็นความจริงได้ สุภาษิตคำนี้ หมายความถึง ข่าวลือ หรือ คำเท็จ เมื่อถูกพูดออกไปแบบปากต่อปากมากเข้าๆ ก็สามารถทำให้คนทั่วไปที่ไม่ได้รับข้อมูลด้านอื่นเข้าใจผิด ว่าเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงหรือเรื่องเท็จเหล่านั้นเป็นความจริง




By http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nailert&date=12-07-2007&group=1&gblog=1

       

       

No comments:

Post a Comment