ลูกเกิดแม่อันตราย
มั่งมีโจรคอยจ้อง
ความยินดีใดที่ไร้ทุกข์ ?
ยากจนก็อาจประหยัด
ป่วยก็สนใจสุขภาพ
ความทุกข์ใดที่ไร้ความยินดี ?
ผู้รู้แจ้งจึงเห็นความราบรื่นกับอุปสรรคเป็นเช่นเดียวกัน
ลืมทั้งความดีใจและเสียใจไปสิ้น
นิทัศน์อุทาหรณ์
ขึ้นๆ ลงๆ
เมื่อท่านตกฟากเปล่งเสียงร้องอุแว้ออกมาเป็นครั้งแรก ท่านคงจะไม่รู้ว่า ในระหว่างการคลอดท่านั้น มารดาท่านไว้วนเวียนอยู่ริมขอบเหวแห่งอันตรายอย่างไร มหาเศรษฐีมีเงินท่วมหัว ก็เป็นกังวลอยู่แต่ว่าจะถูกโจรปล้นหมดตัว
การกำเนิดของชีวิตและการมีเงินมหาศาล ดูเหมือนจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มันก็ดีด้านที่น่าวิตกอีกด้านหนึ่ง จึงเห็นได้ว่า ในความยินดีปรีดาก็แฝงเร้นไว้ซึ่งความวิตกอยู่ด้วย
คนบางคนยากจนต้องโอดครวญเพราะความทุกข์ ครั้นเมื่อเขาพอจะเงยหน้าอ้าปากได้ก็รู้ว่า การประหยัดมัธยัสถ์ทำให้เขามั่งมี คนบางคนป่วยหนักไปครั้งหนึ่ง เมื่อหายป่วยแล้วก็รู้จักรักษาสุขภาพถนอมร่างกาย นับแต่นั้นมาก็แข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น ความยากจนกับการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรืองน่าห่วงกังวลก็กลับมีด้านที่น่ายินดีอยูอีกด้านหนึ่ง
นานมาแล้ว ที่ชายแดนมีพ่อเฒ่าอยู่คนหนึ่ง ม้าที่เขาเลี้ยงไว้เกิดหายไป แต่พ่อเฒ่ากลับมิได้รู้สึกว่าได้รับความเสียหายแต่ประการใด อีกไม่นานต่อมาม้าตัวนั้นก็กลับมา นำม้าแข็งแรงอ้วนพีกลับมาด้วยหลายตัว ความจริงเมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อเฒ่าควรจะดีใจจึงจะถูก แต่แกกลับไม่รู้สึกอะไร
ต่อมา ลูกชายของแกซึ่งก็รักม้าเหมือนกันเกิดตกม้าขาหัก แม้พ่อเฒ่าจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นโชคดีก็ได้ ไม่นานก็เกิดสงครามขึ้นลูกชายของคนบ้านอื่นถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารกันหมดมีแต่ลูกชายของพ่อเฒ่าซึ่งขาเป๋ รอดพ้นจากการถูกเกณฑ์และรอดตายมาได้
เพราะฉะนั้น การประกอบซึ่งกันและกันของสุขและทุกข์เป็นสิ่งที่คนเราคาดคิดไม่ถึง สำหรับคนที่คิดปลงได้แล้วนั้น ก็สามารถที่จะมองความสุขความทุกข์ความราบรื่นความล้มเหลวไม่แตกต่างอะไรกัน ลืมความดีใจและเสียใจไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งอิ่นจื่อเหวินของแคว้นฉู่ในอดีต เขาเป็นอัครมหาเสนาบดีที่มีศีลธรรมและมีความรู้กว้างขวาง เคยขึ้นดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีถึง ๓ ครั้ง เขาก็ไม่รู้สึกเสียดายเสียใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น กลับชี้แจงให้คนที่มารับหน้าที่แทนเขาว่า ควรจะทำอะไรบ้าง
พฤติการณ์เช่นนี้นับเป็นการฝึกอบรมตนเองที่หาได้ยากยิ่ง เพราะคนส่วนมากแม้จะมีการฝึกฝนอบรมตนเองมาดีอย่างไรก็ตาม ในการขึ้นๆ ลงๆ เช่นนี้ ก็ยากะเป็นเหมือนดังอิ่นจื่อเหวินซึ่งปลงได้ ไม่เป็นอารมณ์ในผลดีผลร้ายผลได้ผลเสียที่เกิดแก่ตัว ถือความราบรื่นและอุปสรรค ไม่มีอะไรแตกต่างกันแต่อย่างใด
By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
การกำเนิดของชีวิตและการมีเงินมหาศาล ดูเหมือนจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่มันก็ดีด้านที่น่าวิตกอีกด้านหนึ่ง จึงเห็นได้ว่า ในความยินดีปรีดาก็แฝงเร้นไว้ซึ่งความวิตกอยู่ด้วย
คนบางคนยากจนต้องโอดครวญเพราะความทุกข์ ครั้นเมื่อเขาพอจะเงยหน้าอ้าปากได้ก็รู้ว่า การประหยัดมัธยัสถ์ทำให้เขามั่งมี คนบางคนป่วยหนักไปครั้งหนึ่ง เมื่อหายป่วยแล้วก็รู้จักรักษาสุขภาพถนอมร่างกาย นับแต่นั้นมาก็แข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนั้น ความยากจนกับการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเรืองน่าห่วงกังวลก็กลับมีด้านที่น่ายินดีอยูอีกด้านหนึ่ง
นานมาแล้ว ที่ชายแดนมีพ่อเฒ่าอยู่คนหนึ่ง ม้าที่เขาเลี้ยงไว้เกิดหายไป แต่พ่อเฒ่ากลับมิได้รู้สึกว่าได้รับความเสียหายแต่ประการใด อีกไม่นานต่อมาม้าตัวนั้นก็กลับมา นำม้าแข็งแรงอ้วนพีกลับมาด้วยหลายตัว ความจริงเมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อเฒ่าควรจะดีใจจึงจะถูก แต่แกกลับไม่รู้สึกอะไร
ต่อมา ลูกชายของแกซึ่งก็รักม้าเหมือนกันเกิดตกม้าขาหัก แม้พ่อเฒ่าจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นโชคดีก็ได้ ไม่นานก็เกิดสงครามขึ้นลูกชายของคนบ้านอื่นถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารกันหมดมีแต่ลูกชายของพ่อเฒ่าซึ่งขาเป๋ รอดพ้นจากการถูกเกณฑ์และรอดตายมาได้
เพราะฉะนั้น การประกอบซึ่งกันและกันของสุขและทุกข์เป็นสิ่งที่คนเราคาดคิดไม่ถึง สำหรับคนที่คิดปลงได้แล้วนั้น ก็สามารถที่จะมองความสุขความทุกข์ความราบรื่นความล้มเหลวไม่แตกต่างอะไรกัน ลืมความดีใจและเสียใจไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งอิ่นจื่อเหวินของแคว้นฉู่ในอดีต เขาเป็นอัครมหาเสนาบดีที่มีศีลธรรมและมีความรู้กว้างขวาง เคยขึ้นดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีถึง ๓ ครั้ง เขาก็ไม่รู้สึกเสียดายเสียใจแต่อย่างใดทั้งสิ้น กลับชี้แจงให้คนที่มารับหน้าที่แทนเขาว่า ควรจะทำอะไรบ้าง
พฤติการณ์เช่นนี้นับเป็นการฝึกอบรมตนเองที่หาได้ยากยิ่ง เพราะคนส่วนมากแม้จะมีการฝึกฝนอบรมตนเองมาดีอย่างไรก็ตาม ในการขึ้นๆ ลงๆ เช่นนี้ ก็ยากะเป็นเหมือนดังอิ่นจื่อเหวินซึ่งปลงได้ ไม่เป็นอารมณ์ในผลดีผลร้ายผลได้ผลเสียที่เกิดแก่ตัว ถือความราบรื่นและอุปสรรค ไม่มีอะไรแตกต่างกันแต่อย่างใด
By หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิง ( สายธารแห่งปัญญา )
No comments:
Post a Comment