ปล่อยนกเขาเอาหน้า
ตอนใกล้จะขึ้นปีใหม่แต่ละปี ชาวบ้านแถบหานตานต้องพากันขึ้นเขาไปเป็นกลุ่มๆ เพื่อจับนกเขาเอามาให้ขุนนางแซ่เจ้า ขุนนางผู้นี้เมื่อเห็นนกเขากระโดดไปกระโดดมาดิ้นรนออกจากกรงก็พอใจมาก เรียกให้คนนำเงินมาให้รางวัลแก่ผู้จับนกเขามาให้ทั่วทุกคน
แขกคนหนึ่งที่มาเยี่ยมขุนนางแซ่เจ้าเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก จึงถามเขาว่าจะเอานกเหล่านี้ไปทำอะไร
ขุนนางแซ่เจ้าตอบว่า " ท่านไม่ทราบหรือว่าถึงแม้มันจะเป็นชีวิตเล็กๆ แต่มันก็มีค่า ! ฉะนั้นในวันขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าจะต้องปล่อยสัตว์ที่มีชีวิตเหล่านี้เพื่อแสดงความรักและความเมตตาต่อสัตว์ "
ผู้เป็นแขกได้ฟังเช่นนั้นก็หัวเราะกล่าวว่า " วิธีรักและเมตตาสัตว์แบนี้ของท่าน กลับจะทำให้ชาวบ้านที่รู้ว่าท่านชอบปล่อยสัตว์เอาบุญ และถ้าใครจับนกเขาเอามาให้ท่านปล่อย จะได้รับค่าตอบแทน ชาวบ้านก็จะพากันไล่จับนกเขามีทั้งใช้แร้วดัก ใช้หน้าไม้ยิง นกที่ถูกจับมาได้จำนวนมากแต่ที่ตายไปก็คงไม่น้อย ถ้าท่านเมตตาสงสารสัตว์มีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้จริงๆ แล้ว ควรประกาศห้ามคนจับนกเขาเพราะได้ผลกว่า การที่ให้คนจับมาแล้วท่านปล่อยไปเช่นนี้ บาปที่ท่านทำย่อมจะต้องมากกว่าบุญที่ท่านต้องการจะทำไม่รู้ว่ากี่เท่า "
ขุนนางแซ่เจ้าฟังแล้วหน้าชา ยอมรับว่าเป็นความจริง
บันทึกใน " เลี่ยจื่อ "
มุมมองปรัชญา
การซื้อนกมาปล่อยของขุนนางผู้นี้ หาใช่เป็นการรักและเมตตาสัตว์ที่มีชีวิตอย่างแท้จริงไม่ หากต้องการจะได้รับคำเยินยอสรรเสริญว่าตนเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาสัตว์มากกว่า ด้วยเหตุนี้คำพูดเพียงไม่กี่คำของแขกคนนั้นจึงเป็นการเปิดโปงให้เห็นว่า การปล่อยนกเขาความจริงก็คือการฆ่านกเขา การทำตัวเป็นคนใจบุญของเขาแท้จริงเขาเป็นคนใจบาป นิทานเรื่องนี้ได้เสียดสีคนที่คิดหรือทำอะไรโดยไม่มุ่งหวังจะได้แต่ชื่อเสียง คำยกยอสรรเสริญลมๆ แล้งๆ ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น
By ปรัชญาชีวิตใน " สุภาษิต จีน "
No comments:
Post a Comment